ศึกเดือด มหากาฬ - บทที่ 447 เหตุการณ์เหนือธรรมชาติ
“ฉัน ฉัน ฉัน……”
ฉินหว่านฉิงตกใจกลัวไม่น้อย ส่วนท่านชายยี่ก็ได้ทำเสียงหึอย่างไม่พอใจ “ลากตัวออกไป เอาไปด้วยกัน กล้าดูถูกฉันขนาดนี้ ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเธอจะเก่งสักแค่ไหน”
ไม่นาน ฉินหว่านฉิงและชายสูงวัยก็ได้ถูกลากตัวออกไป ก่อนที่จะไป ชายสูงวัยคนนั้นยังได้ร้องโอดครวญออกมา: “ฉินหว่านฉิง ฉันกับเธออยู่ร่วมโลกกันไม่ได้!”
เดิมเขาคิดว่าจะสามารถรุ่งโรจน์ได้ สุดได้วันนี้กลับได้เดินมาถึงจุดนี้ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะการอวดฉลาดของฉินปิงหลัน ถ้าหากเขายังสามารถมีชีวิตอยู่ละก็ จะต้องไม่ปล่อยเธอไปแน่
ส่วนฉินหว่านฉิงในตอนนี้เองก็หมดหวังเช่นกัน เธอเองก็คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า คำพูดประโยคนี้ของตนจะได้นำปัญหาใหญ่เช่นนี้มาให้ตัวเอง
และความรู้สึกโกรธแค้นของเธอ ก็แทบไม่มีอยู่อีกแล้ว
เพราะฉินหว่านฉิงเข้าใจดีว่า ฐานะและภูมิหลังของท่านชายยี่คนนี้น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก เมื่ออยู่ต่อหน้าคนประเภทนี้ ตัวเองคงต้องถูกเชือดสถานเดียว
ยังจะหวังให้มีคนมาจัดการหมอนี่แก้แค้นให้ตัวเองอีกงั้นเหรอ?
ตลกสิ้นดี!
นี่ไม่ใช่ราชาในที่แบบนั้นอย่างเฉินอี แต่เป็นคุณชายรัชทายาทที่แท้จริง พูดไม่น่าฟังหน่อย เฉินอีคงไม่มีแม้แต่คุณสมบัติจะถือรองเท้าให้ท่านคนนี้ หรือแม้กระทั่งพูดถึงฐานะตำแหน่ง เกรงว่าคงเทียบไม่ได้แม้แต่ชายสูงวัยที่อยู่ด้านข้างเมื่อก่อนหน้านี้คนนั้น
ทั่วทั้งต้าถัง มีคนคนนั้นอยู่ ใครกล้าทำอะไรท่านชายยี่คนนี้บ้าง?
จากการผ่านไปของเวลา เสียงร้องโอดโอยที่อยู่ด้านนอกก็ได้หยุดลง
“เหอะ ๆ”
ท่านชายยี่หัวเราะเยาะ กล้าพูดกับตัวเองแบบนั้น ไม่เท่ากับเป็นการรนหาที่ตายหรอกเหรอ
คนอื่น ๆ เองก็พยักหน้า ตำแหน่งและสถานะของท่านคนนี้ไม่ได้ง่ายเลยสักนิด ใครกล้าเสี่ยงอันตรายมาช่วยฉินปิงหลัน ฉินหว่านฉิงคนนี้ยังเป็นผู้หญิงโง่ที่ไม่มีสมองเอาเลยจริง ๆ
และในเวลานี้เอง เสียงร้องอย่างทุกทรมานก็ได้ดังลอยมาจากด้านนอก ไม่ใช่ฉินหว่านฉิง และไม่ใช่ชายสูงวัยคนนั้น แต่เป็นคนอีกกลุ่มหนึ่ง
เป็นทหารคนสนิทภายใต้บังคับบัญชาของท่านชายยี่นั่นเอง!
ฟังมาถึงตรงนี้ ทุกคนต่างตื่นตัวขึ้นมายี่สิบเท่า
คงจะไม่ได้เกิดเรื่องขึ้นจริง ๆ หรอกนะ!
ชั่วขณะนั้น องครักษ์ของท่านด้านท่านชายยี่ต่างก็ได้มีการเคลื่อนไหว นอกสามชั้นในสามชั้น ชั้นบนชั้นล่างเริ่มถูกปิดล้อมเอาไว้พูดได้ว่าแม้แต่น้ำหยดเดียวก็ผ่านไปไม่ได้
จุดประสงค์ของพวกเขาง่ายเพียงนิดเดียว ไม่ว่าอย่างไรก็จะต้องคุ้มครองความปลอดภัยของท่านชายยี่เอาไว้ให้ดี
สีหน้าของท่านชายยี่เองก็เคร่งขรึมขึ้นมาเล็กน้อย
มีคนกล้ามาหาเรื่องตัวเองจริง ๆ งั้นเหรอ?
“เป็นสามีเก่าของคุณคนนั้นน่ะเหรอ?”
ท่านชายยี่มองไปยังฉินปิงหลัน และถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา เป็นได้ชัดว่าตอนนี้เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ทว่าว่าฉินปิงหลันเหมือนกับฟังความหมายที่ซ่อนอยู่ในนั้นไม่ออกอย่างไรอย่างนั้น แต่กลับได้ยืดอกขึ้นมา และกล่าวอย่างภูมิใจ: “นอกจากเขาแล้ว ยังมีใครที่จะมาช่วยฉันโดยไม่มีข้อแม้แบบนี้บ้าง?”
ไม่จำเป็นที่ฉันปิงหลันจะต้องไปดูเลยสักนิด ก็รู้ว่าจะต้องเป็นเฉินอีอย่างแน่นอน และมีเพียงเฉินอีเท่านั้นที่จะบุกน้ำลุยภัยเสี่ยงอันตรายมาช่วยเธอ
บางทีรอจนโต๋วโต๋วและโนว่โน่วเติบโตเป็นผู้ใหญ่ พวกเธอก็จะทำแบบนี้ แต่ในตอนนี้ นอกจากเฉินอีคงไม่มีคนอื่นอีกแล้ว
“เหอะ ๆ ดูเหมือนว่าแม้ผู้หญิงคนนั้นจะปากเหม็นไปหน่อย แต่หล่อนก็พูดถูก มีคนที่ไม่รู้จักเป็นตายกล้ามาหาเรื่องฉันจริง ๆ ด้วย”
“แต่ว่าคุณวางใจเถอะนะ ไม่ว่าจะมากันมากแค่ไหน ผมก็จะปกป้องคุณเอาไว้ให้ดี ขึ้นไปชั้นบนกับผมตอนนี้เลย ให้ผัวได้มอบความรักให้คุณอย่างเต็มที่”
เดิมทีท่านชายยี่อยากจะเล่นก่อน แต่ตอนนี้อารมณ์แบบนั้นได้ถูกทำลายไปแล้ว เขาต้องการจะระบายความโมโหทั้งหมดลงบนร่างของผู้หญิงคนนี้
ไม่นาน ฉินปิงหลันก็ถูกฉุดกระชากลากดึงขึ้นไปที่ชั้นบน ส่วนคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้สนใจเลยสักนิด
พลังของการรักษาความปลอดภัยของที่นี่ ต่อให้เป็นเทพเจ้ามาเอง ก็ยังต้องคุกเข่าลงอย่างว่าง่าย
ยิ่งไปกว่านั้น สามีนั่นของฉินปิงหลัน……นับเป็นตัวอะไรกัน!
เวลาค่อย ๆ ผ่านไป คนจำนวนต่างก็เริ่มพยักหน้าเล็กน้อย พวกเขาต่างกำลังรอคนที่ไม่รู้จักเป็นตายคนนั้นโผล่หัวออกมา พอถึงตอนนั้นจะต้องทำให้มันเสียที่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้อย่างแน่นอน
แต่ทว่า ผ่านไปสิบนาทีเต็ม ๆ ที่ด้านนอกไม่มีเสียงใด ๆ เลยแม้แต่นิดเดียว
“ถูกควบคุมเอาไว้ได้ตั้งแต่อยู่ด้านนอกแล้วงั้นเหรอ?”
ไม่น้อยคนได้ยกคิ้ววขึ้น จากนั้นก็ปรากฏท่าทางเย้ยหยันออกมา
พวกเขานึกว่าจะเก่งกาจสักเท่าไรกันเชียว สุดท้ายแล้วก็แค่นี้เองเหรอ?!
“ฉันนึกว่าพอจะมีฝีมืออยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นจะกล้าบุกมาที่นี่ได้ยังไง นึกว่าพอจะนำเรื่องสนุกมาให้ฉันได้บ้าง จริง ๆ เลย……ไม่ได้เรื่อง!”
“ก็นั่นน่ะสิ มันก็เหมือนกับที่ฉันถอดกางเกงแล้วนายให้ฉันดู มันช่างไม่มีความหมายเอาเสียจริง ๆ”
“ไปดูกัน ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าไอ้หมอนั่นมีจุดจบยังไง ว่าแต่พวกที่อยู่ด้านนอกจัดการได้หมอนั่นได้แล้วทำไมยังไม่นำตัวเข้ามาอีกล่ะ”
“ไปดูกันเถอะ”
“……”
คนกลุ่มใหญ่เดินมุ่งหน้าออกไปยังด้านนอก มีเพียงบางที่หันหลังกลับ เหมือนกับสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง แต่ก็เหมือนกับสัมผัสถึงอะไรไม่ได้เลย
ไม่นาน คนกลุ่มหนึ่งก็เดินออกมา และได้พบกับความระเกะระกะที่อยู่บนพื้นในทันที
คนกลุ่มหนึ่งล้มลงไปนอนอยู่บนพื้น ยังมีชีวิตอยู่ แต่กลับไม่สามารถสั่งเสียงใด ๆ ออกมาได้เลย เห็นได้ชัดว่า เส้นเสียงของพวกเขาได้ถูกบีบจนแหลกละเอียด
“เชี่ย!”
คราวนี้ ผู้คนไม่น้อยต่างมีสีหน้าเปลี่ยนไป
นี่กำลังล้อเล่นอยู่หรือเปล่าน่ะ
คนพวกนี้ล้วนเป็นคนของพวกเขา แถมยังมาจากบริษัทรักษาความปลอดภัยมีชื่อเสียงจากที่ต่าง ๆ ตอนนี้กลับได้พ่ายแพ้ทั้งหมด ไม่ว่าใครก็ยากที่จะรับได้
“บ้าเอ๊ย!”
“เดี๋ยวสิ คนของพวกเราพ่ายแพ้ แล้วไอ้หมอนั่นอยู่ที่ไหนกันล่ะ?”
ใครบางคนพลันนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา และได้สติกลับมาทันที แต่ก็ไม่รีบไม่ร้อน คนที่สามารถรักษาความปลอดภัยอยู่ภายในและชั้นบนได้ล้วนเป็นสุดยอดของสุดยอด ต่อให้คนที่มาเป็นระดับปรมาจารย์สิบคน ก็อย่าคิดว่าจะบุกเข้าไปได้ สำหรับเรื่องที่จะหนีออกมาได้นั้นก็อย่าได้คิดเลย
แต่ทว่า!
ในตอนที่พวกเขากลับเข้าไป กลับพบว่ามีซากศพนอนอยู่เต็มบันไดไปหมด
และพอมองขึ้นไปด้านบน ยอดฝีมือนับร้อยคนกลับไม่ส่งเสียงใด ๆ เลย
“เชี่ย!”
“ท่าทางแบบนี้ ต่อให้คนที่มาเป็นระดับปรมาจารย์หลายคนก็ไม่สามารถทำให้เกิดสภาพแบบนี้ได้ นี่มันไปยังไงมายังไงกัน?”
“เกรงว่าครั้งนี้พวกเราคงต้องจบเห่แล้ว คนที่มาในครั้งนี้ร้ายกาจมากจริง ๆ เหมือนว่าพวกเราจะไม่ใช่คู่ต่อสู้เสียแล้ว”
สีหน้าของพวกเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสามารถจินตนาการได้แล้ว
แค่คนจำนวนไม่น้อยในหมู่พวกเขา ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรไปชั่วขณะ ต่างก็มุ่งหน้าไปยังด้านบนอย่างไม่คิดชีวิต
หวังว่าท่านชายยี่จะได้หนีไปแล้ว ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่สามารถอธิบายกับท่านผู้นั้นได้
ทว่าในความเป็นจริง ท่านชายยี่ในเวลานี้ไม่ได้สังเกตสถานการณ์ภายนอกเลยสักนิด
ไม่ต้องพูดถึงว่าที่นี่มีระบบเก็บเสียงอย่างดี
ต่อให้ไม่เก็บเสียง ท่านชายยี่ก็จะไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความเคลื่อนไหวที่ด้านนอก เพราะตอนนี้เขาได้มุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ฉินปิงหลัน
“คนสวย คุกเข่าลง ยอมจำนนต่อฉัน ฉันจะมอบเงินทองเกียรติยศที่ไม่มีที่สิ้นสุดให้เธอ”
“นี่ เป็นสิ่งที่เธอควรจะได้รับ!”