ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?) - ตอนที่ 39
ตอนที่ 39 พบเพื่อนเก่า
ผมลอกภารกิจทั้งหมดไว้บนกระดาษ เก็บมันในแหวนเก็บของ ก่อนจะดึงปลั้กจากเทอร์มินัลของเรดลีฟเทอร์มินัลกลับเป็นปกติทันที พอปิดแหล่งจ่ายไฟแล้ว ผมก็เดินไปทางประตู
“รอก่อน”
คนชุดดําที่หน้าประตูขวางผมไว้ แล้วกดปุ่มที่ประตู ผ่านไปแวบหนึ่ง ไฟข้างปุ่มก็สว่างขึ้นมา
“เจ้าไปได้”
พูดจบ เขาก็หลีกทางให้
มีเครื่องมือตรวจจับด้วยเหรอเนี่ย มันคงไม่บันทึกการกระทําเมื่อกี้ของผมไว้หรอกนะ
แต่จะถามคําถามแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นคงไม่ดี ถึงเป็นแบบนั้น ผมก็เปลี่ยนหน้าเป็นคนอื่นตอนเข้าสู่ตลาดมืดเรียบร้อย ถ้าใครคิดจะเปิดโปงการอําพรางของคนอื่นในตลาดมืดเขาคนนั้นก็ถือว่ารนหาที่ตาย
เสร็จธุระทางนี้ ในที่สุดผมก็มีโอกาสได้ซื้อของที่ต้องใช้ในตลาดมืดสุดมหัศจรรย์นี่ซะที
อันที่จริง ตลาดมืดที่นี่เพื่อนผมถึงคําอธิบายในเกมที่พูดถึงโลกในยุคกลาง สิ่งที่แตกต่างจากห้องเก่าแก่ข้างนอกนั่นคือ ในตลาดมืดเต็มไปด้วยกลิ่นอับชื้นและเหม็นเน่าคละคลุ้งอยู่ตลอดความรู้สึกแบบนี้ทําให้ผมนึกถึงโลกที่อยู่ภายใต้ความสมดุลของอํานาจเด็ดขาดไม่ใช่นักการเมืองช่างจ้อที่ผมเห็นตอนนั่งอยู่หน้าโต๊ะคอมทุกวัน
ของที่ซื้อได้ในตลาดมืดมีเยอะแยะไปหมด ทั้งน้ํายาลบความจําเอย หรือเครื่องมือลอบสังหารขนาดเล็กเอย ขอแค่คุณอยากได้ ที่นี่ก็มีให้คุณซื้อทุกอย่าง
แต่ที่นี่ มีน้อยคนที่จะแปลงหน้าแบบผม คนส่วนมากจะชอบใช้ผ้าพันคอหรือผ้าปิดปากมาบดบังหน้าตาของตัวเองมากกว่า จริงๆเลย ไม่รู้หรือไงว่าถึงคุณจะใส่หน้ากากผมก็รู้ว่าคุณเป็นใครได้อยู่ดีชื่อคุณเล่นลอยอยู่บนหัวซะขนาดนั้น
มันก็แค่สําหรับผมเท่านั้นนะ
พอเดินเล่นได้ครึ่งชั่วโมง ผมก็เดินในตลาดมืดได้เกินครึ่งรอบ ของที่ผมซื้อกลับมีแค่สูตรประกอบ HP และ MP เครื่องสะเดาะกลอนทุกประเภทกับเครื่องมือตรวจจับกลอนเวทมนตร์
ถึงจะรู้สึกว่าของอย่างอื่นอาจมีประโยชน์ แต่สําหรับผมในตอนนี้ ผมไม่ได้มีทุนมาซื้อของที่ “อาจจะได้ใช้” หรอกนะ
หลังจากเดินไปสักพัก จู่ๆ ผมก็ถูกสินค้าที่แขวนบนทางเข้าร้านเล็กๆ แห่งหนึ่งตรงสุดถนนดึงดูดพอเดินเข้าไปใกล้ผมก็พบว่าผมไม่ได้มองผิดไปจริงๆ
ที่ทางเข้าร้านนี้แขวนปืนรางไฟฟ้าเอาไว้
ต้องขอบคุณที่อาจารย์ฟิสิกส์สอนผมไว้ดี บวกกับสายเชื่อมต่อของเครื่องมือที่อยู่ด้านนอกเลยทําให้ผมเข้าใจหลักการทํางานของมันในทันที
สิ่งที่น่าพูดถึงคือแหล่งจ่ายไฟของมันใช้คริสตัลเวทสายอัสนี้เป็นแหล่งพลังงาน แถมด้านบนยังเสริมเครื่องมือที่มีขนาดประมาณตัวควบคุมแรงดันไฟฟ้าทั้งเซ็ต
ผมมองเข้าไปในร้าน กลับไม่มีคนอยู่เลย มีกิจการแบบนี้ด้วยเหรอ แบบที่ไม่มีคนเลยนะ
แต่ตอนนี้ผมคิดออกแล้วว่าคนที่คิดค้นเครื่องมือนี้คือใคร ผมเปิดรายชื่อผู้ติดต่อ แล้วชื่อของเดลก็กําลังสว่างอยู่จริงด้วย
ผมกดปุ่มติดต่อ แล้วส่งข้อความไป
“ออกมารับลูกค้าสิ มีคนทําธุรกิจแบบนายด้วยหรือไง
หลังข้อความส่งไปสิบวินาที ผมก็ได้ยินแค่เสียงตึงตั้งจากในร้าน แล้วผู้ชายผมเผ้ากระเซอะกระเซิงใส่ชุดกาวน์สีขาวก็โดดออกมาจากด้านในสุด บนตัวยังมีสายไฟพันอยู่หลายเส้นเดลเลสเตอร์
นักเวทอัสนี เลเวล 18
เป็นกลาง ผู้ใช้สายฟ้า นักวิจัยเวทมนตร์ คนกลางจากนรก ผู้คิดค้นปีศาจ นักโทษหมายจับ
“ไง เดล ไม่เจอกันนานนายดูเปลี่ยนไปนะ…ดูเป็นมืออาชีพขึ้นนี่”
“ที่แท้ก็นายนี่เองฟิล นึกไม่ถึงเลยว่านายจะหนีมาถึงเมืองชายแดนเล็กๆ นี่…หรือว่านายสะกดรอยตามฉันมาฉันแค่อยากตั้งใจทําวิจัย แต่ฉันคงสิ้นหวังกับโลกที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและเล่ห์เหลี่ยมแล้วแหละ มันไม่เหมือนในเกมเลยสักนิด”
พูดจบ หมอนี่ก็เหมือนจะร้องไห้
พระเจ้าช่วย จิตใจนายอ่อนแอไปหรือเปล่า
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ นายถึงกลายเป็นงี้”
“ไอ้ราชาสารเลวนั่น เที่ยวป่าวประกาศว่าฉันหลบหนี แต่จริงๆ แล้วเขาแอบใช้ยาสลบกับฉัน แล้วผลักฉันให้ตกหน้าผาทุกอย่างก็เลยจบ…พระเจ้านายไม่เข้าใจความรู้สึกตอนตกลงไปทั้งที่รู้ว่าตัวเองใกล้ตายแต่ทําอะไรไม่ได้หรอกหลังจากนั้นฉันเลยหนีมาถึงที่นี่ แล้วเปิดร้านนี้ถึงปืนรางไฟฟ้าจะไม่ได้รับความสนใจเท่าไรแต่เครื่องมือลอบสังหารที่ฉันประดิษฐ์กลับขายดีเชียวละพอทุกร้านนําเข้ามันในปริมาณมากเลยทําให้ฉันพอมีทันวิจัยอยู่
“นายรู้อะไรไหม”
ผมมองเขาด้วยหน้าตาขมขึ้น
“ฉันคิดจะปลอบใจนายตอนนายพูดเมื่อกี้ แต่ตอนหลัง ฉันอยากจะอัดนายแล้ว”
“ทําไมล่ะ”
“เพราะฉันอยากพิสูจน์ประสิทธิภาพเครื่องมือลอบสังหารของนายด้วยตัวเองไง”
“คือง…”
เดลพูดแฝงความขอโทษ
“ฉันเพิ่งประดิษฐ์ของชิ้นนั้นได้สัปดาห์เดียว แต่ไม่นึกเลย…”
“เอาเถอะๆ มันไม่สําคัญหรอก จะว่าไปนายโดนจักรพรรดิหน้าไม่อายนั่นฆ่าน นายอยู่ที่นั่นก็ควรระวังเรื่องนี้หน่อยสินายเป็นคนหมู่น้อยที่สามารถคุยกับคนระดับจักรพรรดิในอาณาจักรนั่นได้เชียวนะ เขาคงคิดว่านายอัน ตรายเกินไปจนฆ่านายทิ้งแน่ๆ”
“แหม…ฉันเลยเกลียดการเมืองไง”
“นี่มันยังไม่ถึงกับการเมืองเบื้องต้นเลยด้วยซ้ํา…เอาเถอะ แล้วคราวนี้นายวางแผนจะสร้างปืนรางไฟฟ้านี่น่ะเหรอ”
“เปล่า อานุภาพของคริสตัลอัสนีมันเกินที่ฉันจินตนาการไว้ เพราะงั้นการคิดค้นปืนรางไฟฟ้าก็เลยเสร็จเรียบร้อย”
“แต่นาย…”
“ฉันจะประกอบมันเข้ากับหุ่นเชิดอัตโนมัติ ให้มันกลายเป็นอาวุธทางอากาศ”
“เดี๋ยวนะ..รอเดี๋ยว แปลว่าตอนนี้นายกําลังปรับปรุงหุ่นเชิดของพวกตระกูลสมิวอยู่เหรอ”
“นายรู้ได้ไง ฉันคิดว่ามันเป็นโปรเจกต์ลับซะอีก”
“นี่มันเป็นโปรเจกต์ลับ แต่ไม่ใช่สําหรับฉัน”
จะติดตั้งปืนรางไฟฟ้าในหุ่นเชิดอัตโนมัติงั้นเหรอ นี่มันบ้าชัดๆ เป็นไซบอร์คหรือไง ถ้าไม่สนเรื่องหน้าตาไอ้สิ่งนี้ก็ดูเข้ากับชื่ออยู่แหละ
แต่ถ้าข้อมูลนี้เปิดสู่สาธารณะ เครื่องมือจักรกลที่เดลคิดค้นจะต้องดึงดูดความสนใจของอาณาจักรใหญ่ๆเยอะแยะแน่ถึงไม่รู้ว่าตระกูลสมิวคิดจะสนับสนุนอาณาจักรไหน แต่ของชิ้นนี้ต้องเปลี่ยนแปลงสถานการณ์การรบได้แน่
แต่ผมไม่ไปสนใจสิ่งของทางการทหารแบบนี้จะดีกว่า ตอนนี้ผมควรสนใจเรื่องเควสต์ของผมสิ
“เดล ตอนนี้มีโอกาสไม่เลวที่จะทําให้นายสร้างความมั่นใจในการเสี่ยงอันตรายบนแผ่นดินนี้ต่อไป”
“ไม่จริงมั้ง ฉัน…”
“ไม่ ฟังฉันนะ ฉันจะช่วยนายแก้ปัญหาเรื่องอาณาจักรเซอร์ฟา พวกเราจะไปล้างแค้นด้วยกันแต่เงื่อนไขคือ…คือนนี้นายต้องช่วยให้ฉันแฝงตัวเข้าไปส่วนในของตระกูลสมิวได้เป็นไงบ้าง”
“จริงเหรอ”
“ถ้าทําได้ ฉันอยากได้ต้นแบบของหุ่นเชิดอัตโนมัติที่ติดปืนรางไฟฟ้าด้วย”
“ถ้านายตกลง…ว่าจะทําให้ไอ้สารเลวที่ผลักฉันตกหน้าผากลายเป็นฝุ่นน่ะนะ”
“ไม่มีปัญหา”