Gate of God - ตอนที่ 1150 การปรากฎขึ้นของแหล่งพลังเทพเจ้า
ตอนที่ 1150 การปรากฎขึ้นของแหล่งพลังเทพเจ้า
”จงหลับไหลไปตลอดกาลซะฉือโหย่ว เจ้าไม่มีทางต่อต้านได้!” ฟางเจิ้งจือไม่สนว่าฉือโหย่วจะคิดเช่นไร
กิ่งไม้สีดำคืบตลานไปตามลำตัว
แขนข้างหนึ่งถูกตรึงไว้ในทันที
ถ้าไม่ใช่เพราะร่างกายอันใหญ่โตเขาคงถูกพันธนาการไปทั้งร่างแล้ว
”ฟางเจิ้งจือเจ้ากดดันข้ามากเกินไปแล้ว!” ฉือโหย่วกำลังตื่นตระหนกอย่างแท้จริง จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ภาพจำนวนมากปรากฎขึ้นในใจของเขา
มันเป็นสงครามยุคโบราณที่เต็มไปด้วยเลือดและความโหดร้าย
ครั้งหนึ่งเขาเคยอยู่บนจุดสูงสุดฉือโหย่วชนะสงครามมานับครั้งไม่ถ้วน ยิ่งไปกว่านั้นยังเคยเอาชนะจักรพรรดิฮวงและจักรพรรดิหยานอยู่หลายครา
ถ้าอยู่ดีๆซวนหนี่แห่งสวรรค์ทั้งเก้าไม่ได้ปรากฎตัวขึ้นอย่างกระทันหันเขาคงได้เป็นผู้ครอบครองโลกใบนี้อย่างแท้จริง
หลายล้านปีเขาถูกกักขังเอาไว้…
เขารอคอยอยู่ใต้ภูเขาคังหยางด้วยความโดดเดี่ยวและในที่สุดหลังจากผ่านไปหลายล้านปี เขาก็ได้กลายเป็นอิสระ
กลับไปยังที่ที่เขาจากมา?
เขาจะยอมรับมันง่ายๆได้เช่นไร?
เขาไม่ต้องการถูกกักขังไว้แม้แต่เพียงวินาทีเดียว
ทั้งความหดหู่สิ้นหวัง โดดเดี่ยว…
เขาไม่ต้องการสัมผัสความรู้สึกเช่นนั้นอีก
”ฟางเจิ้งจือข้าไม่มีวันให้อภัยเจ้า!” ฉือโหย่วตะโกน จากนั้นร่างของเขาก็แยกออกเป็นสองส่วน ในเวลาเดียวกันมีบางสิ่งคล้ากับลูกโลหะขนาดใหญ่ร่วงลงมาจากร่างกายของฉือโหย่ว
จากนั้นมันก็เปลี่ยนแปลงรูปร่าง
กลายเป็นฉือโหย่วอีกคนในทันที
”…”ฟางเจิ้งจืออ้าปากค้าง ‘มันเรื่องบ้าอะไรอีกเนี่ย?’
แม้แต่ฉือกูเหยียนยังสั่นกลัว
ขณะที่ทุกคนกำลังสับสนฉือโหย่วเริ่มแยกร่างอีกครั้ง จากสองกลายเป็นสี่ และกลายเป็นแปด แน่นอนว่ามันไม่หยุดแค่นั้น
ไม่นานท้องฟ้าเต็มไปด้วยฉือโหย่ว
81!
มีฉือโหย่ว81คน!
”นั่นมันพี่น้องของฉือโหย่ว?!”
”หรือว่าพี่น้องของเขาทั้งหมดแท้จริงแล้วคือตัวของฉือโหย่วเอง?!”
”…”
เทพอสูรและปีศาจตกตะลึง พวกเขาเคยเห็นภาพแบบนี้ในอดีตแต่ตอนนั้นพวกเขาคิดว่าทั้งหมดนั้นคือพี่น้องของฉือโหย่ว
แต่ตอนนี้พวกเขาได้รับรู้ความเป็นจริง
ทั้ง81 คนคือคนเดียวกัน
พวกเขาทั้งหมดคือฉือโหย่ว
”ฟางเจิ้งจือเจ้าไม่สามารถกักขังข้าไว้ได้!” แทนที่จะสู้ ฉือโหย่วเริ่มหลบหนีในทิศทางที่ต่างกันออกไป
”พยายามหนีงั้นหรือ?”ฟางเจิ้งจือขมวดคิ้ว
เขาคิดว่าฉือโหย่วต้องการจะสู้กับเขาต่อแต่ความเป็นจริงไม่เป็นเช่นนั้น
”ฉือโหย่วเจ้าไม่มีทางหนีไปได้!”ฟางเจิ้งจือไม่คิดอะไรอีกเมื่อเห็นฉือโหย่วหลบหนี
”ภูเขา!”
”ภูเขา!”
”…” เสียงตะโกนดังขึ้นอย่างต่อเนื่องภูเขาจำนวนนับไม่ถ้วนปรากกฎขึ้น ภูเขาทุกๆลูกกลายเป็นค่ายกลห้าธาตุ ฟางเจิ้งจือสร้างค่ายกลห้าธาตุ81อันขึ้นมา
”…”
”…”
เทพอสูรและเทพปีศาจต่างพูดไม่ออก
ฉือโหย่วเองก็นิ่งอึ้งเขาไม่คาดคิดว่าฟางเจิ้งจือจะสามารถใช้ค่ายกลห้าธาตุหยุดเขาได้ทั้งหมด
ฟางเจิ้งจือไม่ลังเลในเมื่อฉือโหย่วที่แยกออกมานั้นมีร่างกายเล็กลงการใช้ต้นไม้สีดำผนึกร่างกายย่อมรวดเร็วกว่าเดิม
”อ๊าก!”ฉือโหย่วคนแรกคำรามออกมาและล้มลงบนพื้น
ตามมาด้วยคนที่สอง
สาม…
ขณะที่ฟางเจิ้งจือเคลื่อนไหวฉือโหย่ว8คนก็ถูกต้นไม้สีดำผนึกไปเรียบร้อยแล้วก่อนที่ร่างเหล่านั้นจะร่วงลงไปยังพื้นลาวาใต้ภูเขาฉางหยาง
ฟางเจิ้งจือไม่คิดจะหยุด
”ยังคิดจะหนีอีกงั้นรึ?”ฟางเจิ้งจือไม่คิดจะให้โอกาสฉือโหย่วเพราะถ้าฉือโหย่วรอดไปได้นั้นเท่ากับหายนะ
ใบหน้าของฉือโหย่วนั้นพลันอัปลักษณ์ขึ้นเรื่อยๆ
เขาอ่อนแอลงเมื่อฟางเจิ้งจือผนึกร่างแยกของเขาไปเรื่อยๆไม่ดีแน่ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อๆไป
”ฟางเจิ้งจือเจ้าต้องการผนึกข้าเพื่อปกป้องโลกใบนี้งั้นรึ? เยี่ยม…งั้นข้าจะทำลายโลกใบนี้พร้อมกับลากเจ้าลงนรกไปกับข้าด้วย!” ดวงตาของฉือโหย่ว กลายเป็นสีแดงดั่งเลือด
เขาไม่ต้องการถูกผนึก
ถ้าต้องถูกผนึกแล้วละก็ยอมตายเสียดีกว่า ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะให้ทุกคนและโลกใบนี้ตายตามเขาไปด้วย
”ตู้ม!”
ร่างหนึ่งของฉือโหย่วระเบิดออก
มันเป็นการทำลายล้างตัวเอง
มันต่างกับการถูกฆ่าพลังปีศาจถูกปลดปล่อยออกมา แม้แต่จิตวิญญานก็ถูกทำลายไม่มีทางฟื้นคืนได้อีกในอนาคต
แรงระเบิดนั้นสั่นสะเทือนไปทั่วพื้นโลก
”เกิดอะไรขึ้น?!”
”เขาฆ่าตัวตายงั้นรึ?”
”เขาพยายามทำอะไรอยู่?”
เทพอสูรและปีศาจหวาดกลัว
ด้วยเหตุผลบางอย่างฉือโหย่วระเบิดร่างกายตัวเอง พวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงสิ่งแปลกประหลาดเหนือท้องฟ้าภูเขาฉางหยาง
”ร่างกายของฉือโหย่วผสานเข้ากับแหล่งพลังเทพเจ้าการที่ฉือโหย่วระเบิดตัวเองนั้นมีเป้าหมายเพื่อทำลายแหล่งพลังเทพเจ้านั่นเท่ากับทำลายโลกใบนี้!” หยุนชิงวูอธิบาย
”ทำลายโลกใบนี้?!”
”…”
ทั้งปิงหยางและเหยียนซิวตกตะลึง
ฉือกูเหยียนกำมือแน่น
ถูกแล้ว
ถ้าฉือโหย่วทำลายตัวเองนั่นเท่ากับทำลายโลกใบนี้ไปด้วย
ตู้ม!เสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง
ทั้งผืนโลกและสวรรค์สั่นสะเทือนสายฟ้าผ่าลงมาจากด้านบนท้องฟ้า
ตู้ม!
ตู้ม!
”…”
ฉือโหย่วบ้าไปแล้ว
ร่างกายที่ถูกผนึกและจมอยู่ใต้ลาระเบิดออกเช่นกัน
ลาวาสาดกระเซ็นไปทั่ว
ต้นไม้ถูกเผาจากลาวาเปลวเพลิงลุกท่วมไปทั่ว
ในเวลาเดียวกันดวงอาทิตย์สีแดงพลันดำมืดลงราวกับเกิดสุริยุปราคา
”พวกเราต้องหยุดเขา!”
”ใช่แล้วภัยพิบัติกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง!”
”ฉากในอดีต…โลกกำลังกลายเป็นนรก!”
ทั้งเทพอสูรและปีศาจต่างหวาดกลัว
อย่างไรก็ตามใครจะหยุดฉือโหย่วได้?
แม้ฟางเจิ้งจือจะควบคุมร่างกายของฉือโหย่วแต่ไม่สามารถควบคุมความนึกคิดของฉือโหย่วได้
ตู้ม!
พื้นดินแตกออก
ลาวาไหลทะลักออกมาจากพื้น
ดวงอาทิตย์สีดำราวกับหลุมดำ อุกาบาติร่วงลงมาจากท้องฟ้า
”ภัยพิบัติจักรวาล!”
”โลกกำลังจะถูกทำลาย!”
”…”
ทุกคนต่างหวาดกลัว
ด้านฟางเจิ้งจือเขามองอุกาบาตที่ร่วงลงมาจากท้องฟ้า ในใจของเขานั้นเต็มไปด้วยความคิดนับไม่ถ้วน
’ภัยพิบัติจักรวาล?’
’ภัยพิบัติที่เคยเกิดขึ้นในอดีตงั้นหรือ?’
’มันไม่ใช่ฝนดาวตกงั้นหรือ?’
เขาจำได้ว่าในโลกก่อนนั้นก่อนที่อารยธรรมของมนุษย์นั้นจะเริ่มขึ้นเคยเกิดเคยมีมหายุคมีโซโซอิก(ยุคที่ยังมีไดโนเสาร์อยู่)
ซึ่งยุคนั้นจบลงที่ฝนดาวตกและอุกาบาตถล่มโลก!
แสดงว่าภัยพิบัติจักรวาลของโลกใบนี้คือฝนดาวตกงั้นรึ?
”ข้าเข้าใจแล้วข้าเข้าใจแล้ว” ในที่สุดดวงตาของฟางเจิ้งจือได้เบิกกว้าง ในที่สุดเขาก็รู้ว่าโลกนี้นั้นไม่ได้ต่างจากโลกที่เขาเคยอยู่
โลกสั่นสะเทือนลาวาไหลออกมาจากพื้น มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะกฎพื้นฐานบางอย่าง แรงดึงดูด…..
ในโลกก่อนนั้นทุกคนย่อมรู้จักกฎความโน้มถ่วงสากลของนิวตัน
เมื่อแรงดึงดูดของโลกนี้เปลี่ยนไปหรือรุนแรงขึ้นย่อมหมายความว่าโลกจะดึงดูดอุกบาตจากรอบจักรวาลเข้ามาหาตัวเอง ทำให้เกิดฝนดาวตกร่วงลงมาบนพื้นโลก
มันคือวิทยาศาสตร์!
ทุกอย่างเกิดจากการเรียนรู้!
ฟางเจิ้งจือรู้สึกโชคดีที่ตัวเองก็มีความรู้ไม่น้อย
”ฉือโหย่วเจ้าไม่สามารถทำลายโลกใบนี้ได้!” ท่าทีของฟางเจิ้งจือเปลี่ยนเป็นรุนแรงขณะที่เขาพุ่งไปหาฉือโหย่วที่กำลังระเบิดร่างกายตัวเอง
”ฟางเจิ้งจือเจ้ากำลังรนหาที่ตาย!” ฉือโหย่วทั้งเต็มไปด้วยความสุขและแปลกใจเมื่อเห็นฟางเจิ้งจือพุ่งเข้ามา
เขาแปลกใจที่ฟางเจิ้งจือเลือกที่จะขุดหลุมศพให้ตัวเองโดยการเข้ามาใกล้เขา
และเขาดีใจเพราะว่าถ้าฟางเจิ้งจือตายนั่นหมายความว่าเขาไม่จำเป็นต้องฆ่าตัวตายอีกต่อไป วันหนึ่งเขาอาจจะได้กลับมาครองโลกอีกครั้ง
”ตาย!”
ร่างของฉือโหย่วที่อยู่ใกล้ฟางเจิ้งจือมากที่สุดระเบิดออก
พลังอันรุนแรงราวกับคลื่นสมุทรไหลบ่าเข้าใส่ฟางเจิ้งจือ
อย่างไรก็ตามเพียงการโบกมือง่ายๆ ฟางเจิ้งจือดูดซึมพลังเหล่านั้นเขาไปในร่างกายทำให้ไม่เกิดอะไรขึ้นแม้แต่น้อย ”เป็นไปได้ยังไง?”ฉือโหย่วตกตะลึง
เขาไม่ยอมแพ้ระเบิดร่างถัดไปทันที
ตู้ม!
ฉากแบบเดิมเกิดขึ้นอีกครั้ง
ในเวลาเดียวกันเขาพบว่าเขาสูญเสียพลังไปอย่างรวดเร็ว ราวกับบางส่วนของร่างกายได้หายไป
มันหายไปจากร่างกายและจิตวิญญานของเขา
ใบหน้าของฉือโหย่วซีดขาวทันที
นั่นเป็นเพราะมันคือแหล่งพลังงานเทพเจ้า
แหล่งพลังเทพเจ้าที่ผสานเข้ากับร่างกายและจิตวิญญานของเขาถูกช่วงชิงไป
ลาวายังคงไหลทะลักออกมาจากพื้น
อย่างไรก็ตามหัวใจของฉือโหย่วสั่นไหว ร่างของเขาหนาวสั่นด้วยความหวาดกลัว
”ทำไม?ทำไมถึงเป็นแบบนี้? ข้าไม่เข้าใจข้าไม่เข้าใจแม้แต่น้อย!” ฉือโหย่วไม่เชื่อ เขาไม่ต้องการยอมรับความเป็นจริง เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น
”เจ้ารู้ไหมว่าทำไมเจ้าถึงผสานเข้ากับแหล่งพลังเทพเจ้าได้?”ฟางเจิ้งจือปรากฎขึ้นตรงหน้าฉือโหย่ว
”อะไร…เจ้าหมายความว่าอะไรกัน?”
”ทุกสิ่งบนโลกสามารถเปลี่ยนแปลงได้รวมไปถึงแหล่งพลังเทพเจ้า”
”ต้นไม้สามารถผสานเข้ากับก้อนหินดาบสามารถหลอมรวมเข้ากับดาบอีกเล่มหนึ่ง ทุกอย่างย่อมสามารถเปลี่ยนแปลงได้”
”…”ดวงตาของฉือโหย่วเบิกกว้าง
”การที่เจ้าจะทำให้ดาบทั้งสองเล่มกลายเป็นหนึ่งนั้นง่ายมากเพียงแค่หลอมมันด้วยความร้อนที่สูงพอมันเหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเจ้าและแหล่งพลังเทพเจ้า ในเมื่อหลอมรวมกันได้ก็ย่อมแยกจากกันได้”
”เจ้าเจ้ากำลังพยายามจะทำอะไร?” ในที่สุดฉือโหย่วก็พอเข้าใจ
”มันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะฆ่าเจ้าตราบใดที่ข้าหาวิธีแยกแหล่งพลังเทพเจ้าจากตัวเจ้าได้ ร่างกายของเจ้าย่อมไม่สามารถเป็นอมตะได้ตลอดไป! นี่คือพลังของวิทยาศาสตร์!”
”วิทยาศาตร์?มันคืออะไรกัน?!”
”เจ้าคงไม่เคยร่ำเรียนเลยไม่เข้าใจจงจำไว้ ถ้าเจ้าไปเกิดใหม่ลองเรียนวิทยาศาสตร์ มันมีประโยชน์มาก!”
โดยไม่รีรอฟางเจิ้งจือวางมือลงบนร่างของฉือโหย่ว
จากนั้นเรื่องแปลกประหลาดได้เกิดขึ้นร่างของฉือโหย่วที่แยกออกค่อยๆกลับมารวมเป็นหนึ่งอีกครั้งด้วยความเร็วที่น่าหวาดกลัว
ตู้ม!ร่างขนาดยักษ์ปรากฎขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับพลังที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามฉือโหย่วกลับดูเต็มไปด้วยความสิ้นหวังเขาไม่รู้ว่าทำผิดไปตรงไหน เขาไม่เข้าใจว่าทำไมฟางเจิ้งจือถึงทำเช่นนี้ได้ ถ้าให้อธิบายความรู้สึกของเขาออกมาในตอนนี้คงเป็น’หวาดกลัว’
”ไม่!!!ข้าต้องการให้พวกเจ้าตายทั้งหมด!!! ตายไปกับข้า!!!” ฉือโหย่วตะโกน เขาไม่สามารถยอมรับความจริงได้ เขากำลังจะตายด้วยน้ำมือของฟางเจิ้งจือ
มือของฟางเจิ้งจือเคลื่อนไหวอีกครั้ง
ราวกับเครื่องดูดฝุ่นขนาดใหญ่ที่ดูดแหล่งพลังเทพเจ้าทั้งหมดออกไปจากร่างของฉือโหย่ว
”เจ้ามันเป็นปีศาจร้ายเจ้ามันเป็นปีศาจร้าย!” ร่างกายของฉือโหย่วเล็กลงเรื่อยๆพร้อมกับพลังที่หายไป
แสงสว่างปรากฎขึ้นเหนือท้องฟ้ามันสว่างแทบจะเท่ากับดวงอาทิตย์ที่ออกมาจากร่างของฉือโหย่ว
แหล่งพลังเทพเจ้า!
มันไม่ใช่ดวงอาทิตย์
มันเป็นจุดกำเนิดของสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้เป็นแหล่งกำเนิดพลังเรกิ เป็นสิ่งที่ค้ำจุนการดำรงอยู่ของทุกอย่างบนโลกใบนี้
มันเป็นแหล่งกำเนิดของวงจรชีวิตที่ไม่มีสิ้นสุด