เล่ห์รักประธานเจ้าเสน่ห์ / หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 433 คนที่คู่ควรคุณ รอคุณอยู่
- Home
- เล่ห์รักประธานเจ้าเสน่ห์ / หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์
- ตอนที่ 433 คนที่คู่ควรคุณ รอคุณอยู่
ตอนที่ 433 คนที่คู่ควรคุณ รอคุณอยู่
“ฝึก ฝึกฝนอะไร?” คาร่าหรี่ตา สบสายตาตวัสอย่างสงสัย รู้สึกเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดี
“คุณว่าไง?” ตวัสหัวเราะเสียงทุ้มต่ำ เอาหน้าผากชนหน้าผากเธอ กลีบปากเย็นเล็กน้อยประทับลงบนปลายจมูกเธอเบาๆ ฉวยโอกาสไล่ลงมาข้างล่าง
หัวใจคาร่าเต้นเร็วตึกตักๆ ราวกับจะกระโดดออกมาจากลำคอ แก้มสองลูกแดงก่ำ ผลักเขาออกอย่างเขินๆ “นี่มันกลางวัน อย่างมากวน”
ตวัสเงยหน้าขึ้นมาจากตรงไหล่เธอ มองเธอด้วยสายตาน่าสงสาร จากการวุ่นวายของนรชัย เขาก็ระงับอารมณ์มาจะเดือนหนึ่งแล้ว
“คาร่า คุณทนได้หรอ แต่ผมคิดถึงคุณมากนะ……” เสียงของเขาทั้งมีเสน่ห์และน่าหลงใหล ทำให้คนอดไม่ได้ที่จะลุ่มหลงในรสชาติ ทำให้ทั้งร่างของคาร่าอ่อนปวกเปียก ขยับไม่ได้
ใบหน้าแดงก่ำของคาร่ายิ่งแดงหนักขึ้น จากสายตาที่ดูแลรักใคร่และอ่อนโยนของตวัส จู่ๆก็ทำให้เธอพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้
นัยน์ตาตวัสก็มีรังสีแห่งความประหลาดใจปนดีใจออกมา เขาจูบเบาๆบนหน้าผากเธอ แล้วพูดกับเธอเบาๆ “ผมจะระวังให้มาก……”
ผิวกายของคาร่ากลายเป็นสีชมพูเพราะความเขินอาย ยิ่งทำให้เธอดูสวยขึ้นไปอีก
ขณะที่ตวัสเตรียมพุ่งเข้าไปที่คาร่า ที่นอกประตูของคฤหาสน์ก็พลันมีเสียงคนเคาะประตู
ไม่มีการหยุดสักนิด เสียงยิ่งดังเหมือนรีบเร่ง
ทั้งสองกำลังเข้าได้เข้าเข็มกันอยู่ ก็เบิกตากว้างมองหน้ากัน
คาร่าก็ยื่นมือไปผลักตวัส เพราะว่าด้านนอกของประตูมีคนทั้งร่างก็เลยเครียดจนกังวล “รีบใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วลงไปดูกัน!”
ยังดีที่พวกเขามีนิสัยเวลาดูโทรทัศน์จะปิดหน้าต่างคฤหาสน์ไว้ ดังนั้นมองจากข้างนอกเข้ามาไม่เห็น
แต่คาร่าก็ยังกังวล กลัวว่าจะมีคนเปิดประตูเข้ามากะทันหัน เห็นพวกเรากำลังทำอะไรกลางวันแสกๆ……
โอ้พระเจ้า งั้นจากนี้ไปเธอจะทำตัวอย่างไร?
ตวัสหรี่ตาอย่างอันตราย ไม่ว่าด้านนอกประตูจะเป็นใครก็ทำให้เขาโกรธสุดขีด เขาลุกขึ้นมาจากตัวคาร่าอย่างอารมณ์เสียสุดๆ จัดระเบียบชุดเธอให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นก็จัดให้ตัวเอง จูบกลีบปากอันสวยนุ่มของเธอเบาๆอย่างไม่ค่อยพอใจนัก แล้วค่อยหันตัวไปที่หน้าประตู
คาร่าจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เป็นระเบียบ แล้วก็ทำความสะอาดโซฟาอีกครั้ง แน่ใจแล้วว่าไม่มีปัญหาก็นั่งลงบนโซฟามองตวัสไปเปิดประตู
แต่ตวัสแค่มองจากตาแมว แล้วก็หันร่างกลับมาอย่างแน่วแน่ ไม่พูดพร่ำทำเพลงลากคาร่าขึ้นไปข้างบน
“เกิดอะไรขึ้น? ใครมา?” คาร่าถามด้วยความสงสัย ตามตวัสขึ้นมาบนห้องข้างบน
แต่ตวัสไม่ตอบ แต่หยิบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาสองใบออกจากตู้เสื้อผ้า เอาสีฟ้าอันหนึ่งให้เธอ “รีบจัดของเร็วเข้า พวกเราออกไปจากที่นี่กันเดี๋ยวนี้ ไปเที่ยวต่างประเทศกันสักสองสามวันค่อยกลับมา”
“ไปต่างประเทศทำไมในเมื่อทุกอย่างกำลังโอเค? เราจะไม่แต่งงานกันหรอ?” คาร่ายิ่งไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว่าตวัสกำลังทำอะไรอยู่
ทริปที่พูดว่าจะไปก็ไปเลย หัวรั้นจริงๆ
“ทะเบียนสมรสทำแล้ว กลับมาค่อยแต่งก็ได้” ตวัสยิ้มให้เธอ จากนั้นก็รีบเอาพวกเสื้อผ้าและของอื่นๆจัดเข้าไป แล้วก็จัดของคาร่าอีก
“ทำไมจู่ๆก็ตัดสินใจแบบนี้?” คาร่าหัวเราะอย่างผ่อนคลาย มองดูเขาจัดของอยู่ข้างๆ เพียงแต่ว่าการตัดสินใจไปต่างประเทศพลันด่วนแบบนี้ คุณพ่อคุณแม่เธอจะว่าอย่างไร?
ตวัสเหมือนมองออกว่าเธอกังวล นำของทุกอย่างใส่กระเป๋าเดินทาง จากนั้นก็เดินไปข้างเธอ จับไหล่เธอแล้วพูดว่า “หนึ่งอาทิตย์ก่อนผมขอพ่อแม่คุณเรียบร้อยแล้วพวกท่านก็ตกลง พวกท่านวางใจยกคนให้กับผม ดังนั้น คุณนาย มากับกระผมเถอะครับ”
คาร่าตลกกับท่าทางที่ไม่จริงจังของเขา หัวเราะคิกคักออกมาแล้วมองเขาด้วยสายตาอ่อนโยน “ก็ได้ ฉันจะไปกับนาย”
ตั้งแต่ตวัสจากไปในปีที่แล้วมา ก็ไม่ได้จากเธอไปไหนอีก และก็หลังจากที่รู้ว่าตวัสเป็นคนที่คอยแอบปกป้องเธอเงียบๆมาโดยตลอด คาร่าก็พบว่าความรักในวัยสาวนั้นใสซื่อเหลือเกิน
ที่เธอชอบนรชัยไม่เป็นเพียงแค่ความทรงจำที่ดื้อรันของเธอมาตลอดเกือบสิบปี แต่เธอนั้นก็คือความทรงจำที่ดื้อรั้นของตวัสมาตลอดสิบกว่าปีด้วย
พวกเขายอมรับผิดคน แต่ยังดีที่สุดท้ายแล้วเธอก็ยังไม่สูญเสียคนที่รักเธอไป
ความทรงจำที่มีค่าที่สุดในชีวิตคาร่า ไม่ใช่การชอบนรชัย หรือการแอบชอบเขามาหลายปี นำความรักโลภโกรธหลงของเขาเข้ามาอยู่ในชีวิตตัวเอง
แต่คนที่ดูเหมือนจะจากเธอไปอย่างตวัส กลับไม่เคยจากไปเลย คอยอยู่ช่วยเธอเงียบๆมาโดยตลอด
บางครั้ง ความรักไม่ต้องพูดออกมา การกระทำต่างหากที่จะพิสูจน์ว่าคนไหนรักคุณจริง
หลังจากจัดกระเป๋าเดินทางเรียบร้อยแล้ว ตวัสไม่ได้พาคาร่าออกไปประตูหน้า แต่พาเธอออกประตูหลัง
“ทำไมไม่ไปประตูหน้า? หรือคนที่มาหน้าประตูเมื่อกี้เป็นศัตรูนาย?” คาร่าพบว่ามันแปลก รู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล ทำไมตวัสถึงดูรีบร้อน?
หรือว่ามีศัตรูมาหาที่บ้านจริงๆ?
ตวัสมองเธออย่างไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “คิดอะไรเนี่ย ผมเป็นประชาชนที่ดีทำตามกฎหมาย จะไปมีศัตรูได้ยังไง?”
คาร่ากระตุกปาก งั้นนายจะทำท่ารีบเหมือนหนีอะไรสักอย่างทำไม?
ตวัสขับรถออกจากโรงรถ แล้วก็ออกทางประตูหลังบ้าน
ขณะที่รถเขากำลังออกประตูหลัง คาร่าก็เห็นรถคุ้นตาจอดอยู่ไม่ไกล เธอจ้องไป รถคันนั้นคือรถของนรชัย
หรือว่า คนที่มากดกริ่งหน้าบ้านคือนรชัย?
คาร่ากำลังจะลดกระจกรถลง ก็เห็นนรชัยกำลังออกมาจากคฤหาสน์พอดี สายตาที่บังเอิญกวาไปที่รถคันนั้น แล้วสบตาเธอพอดี
นรชัยอึ้งไปครู่หนึ่ง พอสติมารถคันนั้นก็ขับไปไกลแล้ว
ตวัส!
นรชัยขมวดคิ้วแน่น ในใจก็รุ่มร้อนไปด้วยความเศร้าสลด อย่างที่คิดไว้ หลังจากสูญเสียถึงจะรู้ค่า ถูกกำหนดไว้แล้วว่าจะต้องสูญเสียคนที่มีค่ากับตนตั้งแต่แรกใช่ไหม?
จนถึงตอนนี้นรชัยก็ไม่เข้าใจ คาร่าชอบเขามาตั้งนาน ทำไมชอบต่อไปไม่ได้ บอกว่าตัดใจคือตัดใจเลย?
ที่จริงแล้ว ไม่ใช่ว่าชอบต่อไปไม่ได้ เพียงเพราะคุณทำให้ความพยายามของเธอนั้นเสียไปอย่างเปล่าประโยชน์ ทำให้เกิดความพยามมากเกิน จนเหลือเขาเพียงตัวคนเดียว
ไม่ใช่ว่าทุกคนที่ถูกชอบ เมื่อถูกทำร้ายมานับครั้งไม่ถ้วนจากคนที่ตัวเองชอบ จะยังสามารถถูกรักต่อไปได้
เรื่องราวที่ยังสามารถถูกรักต่อไปได้ มีอยู่แค่ในนิทานเท่านั้น
ตวัสมองเห็นตวัสที่ยืนอยู่บนถนนอย่างโดดเดี่ยวผ่านกระจก มุมปากยกขึ้นเบาๆ โชคดีที่เขาคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าตั้งนานแล้วว่าจะมีวันนี้ ตั๋วเครื่องบินก็ซื้อเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว
แม้ว่าวันนี้นรชัยจะไม่มาเขาก็จะพาคาร่าไปเที่ยวต่างประเทศสักหน่อยอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเวลาของนรชัย เร่งแผนการเขาให้เร็วขึ้นก็เท่านั้น
คาร่ารู้ถึงท่าทางแปลกๆของตวัสแล้ว หรี่ตามองเขาอย่างแหย่ๆ แล้วพูดว่า “นี่ตวัส บอกมาตรงๆเถอะ นายอิจฉาใช่หรือเปล่า ไม่อยากเห็นนรชัยกับฉันติดต่อกันล่ะสิ เลยพาฉันไปต่างประเทศน่ะ?”
ตวัสดึงมุมปาก สายตามองหน้าไปบนถนนอย่างไม่สบายใจ ไอเบาๆสองสามทีแล้วพูด “ใช่ หรือว่าคุณรู้สึกผิดแล้ว? ไม่งั้นพวกเรากลับไปไหม?”
ปากเขาพูดว่ากลับไป แต่ไม่ได้หมายความว่าอยากกลับสักนิด คาร่าที่มองอยู่อยากจะหยิกเนื้อเขา
เธอชอบผู้ชายแบบไหนกันแน่? แต่ก่อนนึกว่าความใจดีและเป็นพี่น้องที่ซื่อสัตย์ ต่อมาก็พบว่าจริงๆแล้วเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยมีเหตุผลและเย็นชา แต่ตอนนี้คาร่ารู้สึกว่าเขาเป็นคนตีสองหน้า……
“อยากกลับก็กลับสิ บินไปกลับนรชัยสองคนเลยไป” คาร่าพักกับวรินทรมานาน ฝีปากเริ่มไม่น้อยหน้าใครเหมือนกับวรินทร
“ฉันเคยได้ยินมาว่าแต่ก่อนนายอยู่ที่บ้านตระกูลแก้วใส ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากับนรชัยด้วย ใครจะไปรู้ว่าพวกนายไม่ได้……”
คำพูดของเธอกำกวมมาก แถมยังตั้งใจเหลือไว้ครึ่งหนึ่ง ให้คนคิดไปไกล
ตวัสสำลักเกือบจะขับรถไม่คงที่กับประโยคที่เธอพูด ยังดีที่จับให้คงที่ได้ทัน เขาเอียงหน้ามองเธอแวบหนึ่ง “ใครบอกเนี่ย? ตอนนั้นยังเด็กอยู่ พี่น้องกันใครจะไปสนใจ? แถมยังเป็นผู้ชายทั้งคู่ ในหัวคุณคิดอะไรอยู่เนี่ย?”
“อ๋อ~เข้าใจแล้วล่ะๆ นายไม่ต้องอธิบาย ฉันเข้าใจแล้ว” คาร่าออกแรงพยักหน้า ทำหน้าแบบไม่ว่าจะพูดยังไงฉันก็เชื่อ แต่ดูยังไงก็ทำให้อยากตีเธอ
ตวัสไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี จบแล้ว เขาถูกหญิงสาวจินตนาการไปแล้ว
“คาร่า ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดจริงๆนะ……”
“บอกว่าเข้าใจแล้วยังจะอธิบายอีกทำไม? นายไม่รู้หรอว่ายิ่งอธิบายจะยิ่งมีพิรุธ?”
“ในหัวคุณมีแต่อะไรยุ่งเหยิงแบบนี้? ต่อไปนี้อย่าไปอ่านหนังสืออะไรแบบนั้นแล้วนะ!”
“ตวัส! ยังไม่ได้แต่งงานกันนายก็มาจำกัดอิสระฉันแล้วใช่ไหมเนี่ย?!” คาร่าโกรธเคือง
“เปล่าๆๆ ผมจะกล้าได้ไงล่ะ แค่แสดงความคิดเห็นเองนะ?” ตวัสรีบร้องขอความเมตตา
“เฮ้อ ไม่ได้ต่างกันเลย”
“……”
เสียงหยอกล้อทะเลาะกันนิดๆหน่อยๆของทั้งสองในรถห่างไกลออกเรื่อยๆ จนไม่เห็นร่องรอยอีก แต่บนท้องฟ้า ราวกับว่ายังคงมีเสียงหัวเราะเหลืออยู่ไม่ได้หายไปอยู่เนิ่นนาน
หลายปีผ่านมาคาร่าก็หันกลับมามองตัวเองในวัยสาวแล้วพบว่า ในตอนแรกคนที่เธอพลาดมาหลายปี คนที่จะจูงมือเธอเดินไปด้วยกันจนแก่เฒ่า
การแอบรักของทุกคน คงไม่ได้ออกผลลัพธ์ที่ดีกันทุกครั้งอย่างแน่นอน มันอาจจะมีหลายรูปแบบ นำอากัปกิริยาต่างๆเป็นเงาตามตัวในการใช้ชีวิต แต่ตอนที่คุณจะตัดใจจริงๆจะพบว่า คนคนนั้นเพียงแต่ขีดเขียนสีสันในวัยรุ่นให้คุณ แต่ไม่ได้คู่ควรที่จะเดินไปกับคุณ
คนที่คู่ควร คือคนที่อยู่ตรงหน้าคุณ และรอคุณอยู่