ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 37 บททดสอบบำเพ็ญเพียร (37)
ห้าพันปีก่อนแผ่นดินใหญ่ชางเย่ว์เป็นโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรชั้นสูงที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ ในบรรดาเซียนจวินทั้งห้ามีเลี่ยเหยียนเซียนจวินเป็นผู้นำ พวกเขาต่างทำให้แผ่นดินใหญ่ชางเย่ว์เป็นที่รู้จักทั้งภายในดินแดนนี้และภายนอกดินแดน แม้แต่กลุ่มชาติพันธุ์ในดินแดนรกร้างที่อยู่ไกลแสนไกลออกไป ก็ไม่กล้ามาหาเรื่องกับผู้บำเพ็ญเพียรในแผ่นดินใหญ่ชางเย่ว์
ตอนนั้นใครก็คิดไม่ถึงว่าแผ่นดินใหญ่ชางเย่ว์จะพังทลายลง ในชั่วข้ามคืน
วันนั้น เป็นวันที่จิงหงเซียนจื่อผู้ที่เป็นคนรักของเลี่ยเหยียนเซียนจวินให้กำเนิดบุตร
วันนั้นเดิมทีเป็นวันที่ผู้คนต่างจะต้องดีใจ และเหล่าเซียนจวินทั้งสี่ต่างนำของขวัญมาแสดงความยินดีกับเลี่ยเหยียนเซียนจวินถึงถ้ำพักนัก
“หงอวี้ ข้าตื่นเต้นมาก เจ้าตื่นเต้นไหม”
เวลานั้น สวีชิ่นที่กำลังตั้งครรภ์เม้มริมฝีปากและมองไปยังหงอวี้ที่อยู่ข้างหลังตนเอง
เช่นเดียวกับสวีชิ่น หงอวี้ก็กำลังจะกำเนิดบุตรเหมือนกัน เพียงแต่ว่าหงอวี้เป็นเซียนดอกเหมย ดังนั้นการตั้งครรภ์ก็จะแตกต่างจากผู้บำเพ็ญเพียร
“ข้าไม่ตื่นเต้น พี่ชิ่นเอ๋อร์ พี่ก็ไม่ต้องตื่นเต้นนะ” หงอวี้ยิ้มน้อยๆ และจับมือสวีชิ่น
วิชาที่มีชื่อของเลี่ยเหยียนเซียนจวินคือดอกบัวอัคคี และตัวเขาเองก็ค่อนข้างชอบสีแดง เวลานี้ ทั้งจวนถ้ำต่างเป็นสีแดงที่แสดงถึงความยินดีปรีดา หงอวี้และสวีชิ่นต่างก็สวมชุดคลุมสีแดง
สีแดง คือสีแห่งความยินดีปรีดา และเป็นสีของเลือดสด
สวีชิ่นหลับตาลง ยกมือลูบท้องด้วยจิตใต้สำนึก และพูดในใจว่า ‘เช่อเอ๋อร์ ที่จริงแม่กลัวมากจริงๆ’
ในฐานะเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจไม่สามารถมีลูกของตนเองในโลกของภารกิจนี้ได้
และตอนนี้ สวีชิ่นกำลังกระทำฝืนกฎสวรรค์ เพียงเพราะนางรักเลี่ยเหยียนมาก นางรู้ว่าเลี่ยเหยี่ยนเป็นคนหัวแข็งและอารมณ์ร้อน เขาไม่ยอมกลับไปยังห้วงกาลอวกาศที่สาบสูญแล้วกลายเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจพร้อมกับตนแน่
ลูก หรือนี่จะเป็นของขวัญที่ดีที่สุดที่นางจะสามารถทิ้งไว้ให้กับเขาได้ ในช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันหลายปีนี้ เลี่ยเหยียนหวังว่าจะมีลูกคนหนึ่ง และเพื่อให้ความปรารถนาของคนรักสมหวัง นางจึงเตรียมใจที่จะตายแล้ว
ล้วนพูดกันว่าความรักทำให้คนตาบอด สวีชิ่นเคยเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจดีเด่นในห้วงกาลอวกาศที่สาบสูญผู้หนึ่ง แต่เพียงเพราะว่านางทำเพื่อ ‘รัก’ แค่คำเดียว จึงละทิ้งไปทุกอย่าง
เมื่ออาการปวดท้องมาถึง ก็รู้สึกได้ว่าลูกกำลังจะคลอด ทั้งฟ้าต่างถูกเมฆดำปกคลุม นี่…บทลงโทษของสวรรค์!
อัสนีสวรรค์ฟาดผ่าลงมานับไม่ถ้วน และอย่างต่อเนื่อง!
“อาชิ่น!”
เลี่ยเหยียนอุ้มสวีชิ่นหนีออกจากจวนถ้ำ เขาใช้พลังปราณของตัวเองสร้างเกราะวิญญาณ นอกจากหงอวี้ที่คอยรับใช้สวีชิ่นอยู่ด้านข้าง คนที่เหลือต่างอยู่นอกเกราะวิญญาณที่เลี่ยเหยียนสร้างไว้
“เลี่ยเหยียน เลี่ยเหยียน ลูก จะต้องปกป้องลูกไว้!”
สวีชิ่นที่มีสีหน้าที่ซีดเซียวจับมือเลี่ยเหยียน เวลานี้นางสัมผัสได้ว่าวิญญาณของตนเองกำลังถูกอะไรบ้างอย่างดึงออกไป พลังนั้นเหมือนพยายามกรีดผ่าวิญญาณออกจากร่างของนาง
“ไม่ อาชิ่น ข้าต้องการเพียงเจ้า ข้าไม่มีเจ้าไม่ได้!”
ในใจของเลี่ยเหยียน ถึงแม้ว่าอยากจะมีลูกสักคนหนึ่ง แต่สิ่งที่เขาใส่ใจมากที่สุดกลับเป็นสวีชิ่น
เขายอมเสียสละลูกคนนี้ หากมันปกป้องนางได้!
เพื่อที่จะปกป้องสวีชิ่น เลี่ยเหยียนยอมที่สู้กับวิถีแห่งสวรรค์ แต่ว่าวิถีแห่งสวรรค์เป็นความตั้งใจของสวรรค์ ต่อให้เลี่ยเหยี่ยนแข็งแกร่งอย่างไรก็ไม่ใช่คู่มือของเขา ในขณะที่สวีชิ่นกำลังสิ้นลมหายใจ ทันใจนั้นก็มีเงาร่างสายหนึ่งพุ่งแหวกห้วงมิติเข้ามาหา…
“ชิ่นเอ๋อร์ ฉันจะพาเธอกลับเอง!”
ชายผู้นี้มาอย่างกะทันหัน บนร่างยังแผ่กลิ่นอายน่าเกรงขามไร้ขอบเขต
“ชีเย่ว์ ชีเย่ว์ นายช่วยเขาด้วย ช่วยเช่อเอ๋อร์ด้วย”
สวีชิ่นจับมือชีเย่ว์แน่น ชีเย่ว์ถึงสัมผัสได้ว่าสวีชิ่นให้กำเนิดแล้ว เป็นลูกชาย
และเมื่อเด็กคนนั้นเกิดมาก็ดึงดูดอัสนีสวรรค์จากเก้าชั้นฟ้าลงมานับไม่ถ้วน!
“ชีเย่ว์ นายช่วยเขาด้วย นายช่วยเขาด้วย”
เวลานี้น้ำเสียงของสวีชิ่นไร้เรี่ยวแรง มองไปยังร่างของเลี่ยเหยียนที่ได้รับบาดเจ็บหนักด้านข้าง และสวีชิ่นในอ้อมกอดที่เกือบจะสิ้นลมหายใจ ชีเย่ว์หลุบตาลงอย่างไม่เป็นตัวของตัวเอง
เวลานี้ เขาควรพาสวีชิ่นกลับสำนักงานใหญ่โดยตรง แต่เด็กคนนี้…
สุดท้ายชีเย่ว์ก็ลงมือ
บอสของห้วงกาลอวกาศที่สาบสูญ แน่นอนว่าเมื่อลงมือก็ต้องไม่ธรรมดา
แม้ชีเย่ว์จะทำให้เจตนารมณ์ของวิถีสวรรค์ล่าถอย สวีเช่อมีชีวิตรอด ทว่าชีเย่ว์กลับได้รับบาดเจ็บสาหัส
สวีชิ่นที่อยู่ในอ้อมกอดเขาก็แทบจะหมดสิ้นลมหายใจ
“ชิ่นเอ๋อร์!”
และเวลานี้ เลี่ยเหยี่ยนก็พุ่งเข้ามาโดยไม่นึกถึงอาการบาดเจ็บของตนเอง แต่ชีเย่ว์ที่อุ้มสวีชิ่นเอาไว้กลับถอยไปก้าวหนึ่งและพูดว่า “นางไม่ใช่คนของโลกนี้ ข้าต้องพานางกลับไป”
ที่จริง ชีเย่ว์เข้าใจดีกว่าทุกคน เพื่อให้กำเนิดลูกคนนี้ สวีชิ่นใช้พลังวิญญาณทั้งหมดของตนเองไปแล้ว ต่อให้ร่างนางจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แต่วิญญาณของนางก็ใกล้จะสลายไปแล้ว นาง มีชีวิตไม่พ้นวันนี้
“ลูก เลี่ยเหยียน เช่อเอ๋อร์ เช่อเอ๋อร์เขา…”
สวีชิ่นเหมือนอยากจะพูดอะไร ใบหน้าของเลี่ยเหยียนที่อยู่ด้านข้างพลันเปลี่ยนสี “ชิ่นเอ๋อร์ เจ้าอย่าไป! หากเจ้าจากไปด้วยจิตใจอำมหิตเช่นนี้ ข้าจะ…ข้าจะบีบคอเขาให้ตาย!”
ในขณะที่พูด เลี่ยเหยีนก็แย่งเด็กจากหงอวี้ไป
“เซียนจวิน!”
หงอวี้สะดุ้งตกใจ ในฐานะที่เป็นมารดาผู้หนึ่ง นางพลันเบี่ยงกายหลบตามจิตใต้สำนึก
วินาทีต่อมา เด็กที่อยู่ในอ้อมกอดของนางก็ถูกชีเย่ว์คว้าตัวไป “เจ้าที่เห็นแก่ตัวเช่นนี้ไม่คู่ควรกับชิ่นเอ๋อร์เลยแม้แต่น้อย”
ในขณะที่พูด เส้นมิติก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง
“ไม่ให้ไป!”
เมื่อเห็นว่าชีเย่ว์จะพาลูกและภรรยาไป แววตาของเลี่ยเหยียนก็เหี้ยมโหดขึ้นมา “ไม่มีใครจะพาตัวชิ่นเอ๋อร์ไปจากข้าได้ ไม่มีใครทั้งนั้น!”
สุดท้าย เลี่ยเหยี่ยนก็เลือกที่จะระเบิดตนเอง เขาอยากให้ทุกคนตายไปด้วยกัน!
ทว่าชีเย่ว์ที่มองเจตนาของเขาออก เวลานั้นก็พาสวีชิ่นและสวีเช่อจากไปแล้ว หงอวี้รู้ตัวดีว่าคงหนีไม่พ้นการระเบิดของเซียนจวิน ในวินาทีสุดท้าย นางใช้อาคมที่ตัวนางมีทั้งหมด แปลงลูกสาวที่ยังไม่ถือกำเนิดให้เป็นเมล็ดหนึ่ง และโยนออกไปนอกแดน
จากนั้น แรงจากการระเบิดตัวเองของเลี่ยเหยียนเซียนจวินก็ได้ทำลายล้างแดนวิญญาณของเขา เซียนจวินทั้งสี่ต่างตื่นตกใจ เพื่อที่จะปกป้องแผ่นดินใหญ่ชางเย่ว์เซียนจวินทั้งสี่จึงรวมพลังและปิดผนึกอาณาเขตนั้น และกลายเป็นโลกใบเล็กนั่น
ทุกคนต่างคิดว่าเลี่ยเหยียนเซียนจวินตายจากการระเบิดตนเองครั้งนั้น ทว่าสองพันปีต่อมา ไป๋เย่ที่อยู่ในภูเขาหมื่นปีศาจจู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเรียกหาของเลี่ยเหยียนเซียนจวิน
เขาเรียกให้ตนเองค้นหาทายาทของเขา จากนั้นก็ให้พามาที่โลกใบเล็กเพื่อปลดผนึกเขา
ที่แท้หลังจากที่เขาระเบิดตนเอง เลี่ยเหยียนเซียนจวินยังคงเหลือเศษวิญญาณดั้งเดิมอยู่เสี้ยวหนึ่ง ตอนนั้นเขาพลันได้สติกลับมา ด้วยเหตุนี้ในวินาทีสุดท้าย เขาจึงใช้จิตวิญญาณดั้งเดิมของตนเองปกป้องร่างของหงอวี้ และทั้งสองก็จมลงไปใต้ดิน
วังใต้ดินแห่งนี้ เลี่ยเหยียนเซียนจวินเป็นคนสร้างขึ้นมา เขากระทั่งสร้างตราผนึกบวงสรวงเลือดเอาไว้ มีเพียงแค่ทายาทของเขาเท่านั้นที่จะปลดผนึกประตูบานนี้ได้…
เขาเชื่อมาเสมอ เชื่อมาตลอดว่า ชิ่นเอ๋อร์จะต้องกลับมา จะต้องพาลูกของตนเองกลับมา
แต่ตอนนี้ ห้าพันปีผันผ่าน เขาและลูกของชิ่นเอ๋อร์ต่างมายืนอยู่ตรงหน้า ทว่าชิ่นเอ๋อร์กลับไม่ได้กลับมา
เมื่อได้ยินหงอวี้เล่าเรื่อง สีหน้าของซูหว่านและสวีเช่อต่างก็แปรเปลี่ยนไปมาไม่หยุดตลอดเวลา
เมื่อมองไปเลี่ยเหยียน ซูหว่านนึกถึงเรื่องราวของตนเอง…
สิ่งที่ฉันไม่ได้ครอบครอง ฉันก็จะทำลายมัน ต่อให้มอดไหม้ไปพร้อมกันก็ไม่มีอะไรน่าเสียดาย
ตอนนั้นซูหว่านรู้สึกมาตลอดว่า ความรักคือการครอบครอง เมื่อได้ครอบครองแล้ว เพียงจับไว้ให้แน่นมันถึงจะเป็นของจริง
แต่ตอนนี้ ซูรุ่ยสอนนางแล้ว การรักใครสักคนนั้นสามารถทุ่มเทให้ได้อย่างเงียบๆ โดยไม่คำนึงถึงผลตอบแทน
ทุ่มเทให้อย่างไร้ซึ่งความเสียใจ ให้อภัยและเข้าใจกันอย่างไม่สิ้นสุด นี่ถึงเรียกว่าความรักที่แท้จริง
สวีชิ่นได้พบกับเลี่ยเหยียน หลงรักเขา ทุ่มเททุกอย่างเพื่อเขา ที่สุดแล้วมันคุ้มค่าหรือ
“ท่านแม่เพื่อให้กำเนิดข้า ถึงวิญญาณสูญสลายและตายไป”
เวลานี้ สวีเช่อพลันก้าวเท้าเข้ามาก้าวหนึ่ง จดจ้องไปยังเลี่ยเหยียน “ที่นางจากโลกนี้ไปเพราะนางรู้ดีว่าชีวิตนางเหลืออีกไม่นานแล้ว ไม่อยากให้ท่านเสียใจ ดังนั้นนางจึงจากไป”
ถึงแม้ว่าจะปลูกปิดผนึกเจ็ดอารมณ์หกปรารถนา แต่สวีเช่อก็รับรู้และเข้าใจถึงการที่มารดาของเขาให้กำเนิดตนเองอย่างยากลำบาก
นี่เป็นความปรารถนาที่จริงใจที่สุดของหญิงสาวไร้เดียงสา…
นางหวังว่าคนรักของตนเองจะสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่อไป ต่อให้จะเกลียดจะโทษตนเองแค่ไหนก็ตาม อย่างน้อยเขาก็สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่อไปได้
“ชิ่นเอ๋อร์…”
เมื่อได้ยินคำพูดของสวีเช่อ เลี่ยเหยียนพลันเข้าใจความรู้สึกของสวีชิ่นในวันนั้น แต่น่าเสียดายที่ทุกอย่างสายเกินไปแล้ว
“ชิ่นเอ๋อร์ ชิ่นเอ๋อร์”
เลี่ยนเหยีนมองไปยังสร้อยข้อมือสีทองในมือของตนเอง แววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “ชิ่นเอ๋อร์ เจ้าวางใจ ข้าได้เจอเช่อเอ๋อร์แล้ว เขาสบายดีมาก ข้าจะคลายผนึกให้เขา ข้าจะทำให้เขามีความสุข ข้า…”
แววตาของเลี่ยเหยียนแปรเปลี่ยนเป็นลึกล้ำและซับซ้อน เขาเงยหน้าขึ้นและจ้องมองมาที่ซูหว่าน “เจ้าคือคนที่เช่อเอ๋อร์รักหรือ”
เอ่อ
เมื่อได้ยินคำพูดของเลี่ยเหยีน ซูหว่านก็นิ่งไป
“ไม่ใช่นาง”
สวีเช่อถอยไปก้าวหนึ่ง ลอบพาซูหว่านมาปกป้องไว้ด้านหลังตน “นางเป็นเพียงสหายของข้า”
“หึ”
เมื่อได้ยินคำพูดของลูกชายตนเอง เลี่ยเหยียนก็หัวเราะ “เช่อเอ๋อร์ เจ้าจะตื่นเต้นไปทำไม เจ็ดอารมณ์หกปรารถนาของเจ้าถูกปิดผนึกไว้ แต่เจ้าก็ยังคอยปกป้องปีศาจน้อยตนนี้อยู่ นี่แสดงว่า ในใจเจ้ามีนางอยู่ สลักลึกถึงกระดูก!”
สลักลึกถึงกระดูก…
สวีเช่อตกอยู่ในภวังค์ ซูหว่านที่ยืนอยู่ด้านข้างสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
อันที่จริงนางไม่อยากเชื่อ แต่นางรู้ว่าสิ่งที่เลี่ยเหยียนพูดนั้นถูกต้อง
การกระทำของสวีเช่อที่มีต่อนางแตกต่างออกไปจากคนอื่น ตั้งแต่ปีนั้นที่เขายื่นมือมาให้ นางก็ควรรู้แล้ว
แต่ว่าตอนนั้นซูหว่านเองก็ไม่รู้จักความรัก ความแค้นที่มีต่อสวีเช่อมันบังสองตานาง ทำให้ทั้งสองคนคลาดจากกันไป
ในเรื่องของความรัก หากว่าคลาดกันแล้ว ก็จะเป็นหนึ่งชาติหนึ่งภพ
“ในเมื่อพวกเจ้าทั้งสองต่างมีใจให้กัน สร้อยข้อมือเส้นนี้ก็มอบให้นางได้ ข้ายังสามารถสร้างสมบัติพิเศษให้กับนางโดยเฉพาะได้อีกด้วย เป็นของขวัญของพวกเจ้าที่เป็นคู่บำเพ็ญเพียรกัน”
เมื่อเห็นสวีเช่อและซูหว่านต่างนิ่งไป เลี่ยเหยียนก็ยิ้มและยกมือโยนสร้อยข้อสีทองเส้นนั้นไปในมือของซูหว่าน
“ข้ารับไว้ไม่ได้”
ซูหว่านยกมือถอดสร้อยข้อมือเส้นนั้นออกแล้วยัดมันใส่ในมือของสวีเช่อ “สวีเช่อ ฉันรับไว้ไม่ได้ นายก็รู้”
“อืม”
เมื่อได้ยินคำพูดของซูหว่าน สวีเช่อก็ยิ้มและจับมือตนเองแน่น เขารู้ เธอไม่มีวันรักเขาแล้ว
ในจุดนี้ เขารู้มาตั้งนานแล้ว
“สาวน้อย เจ้าพูดอะไร”
เมื่อเห็นว่าซูหว่านปฏิเสธสวีเช่อ สีหน้าของเลี่ยเหยียนก็แปรเปลี่ยนเป็นมองคล้ำในทันที “เจ้าไม่ได้ชอบเช่อเอ๋อร์รึ”
“ข้ามีคนที่ข้ารักแล้ว สวีเช่อเขาดีมาก ดีมากจริงๆ ข้าก็เคย….”
ใบหน้าซูหว่านฝืนยิ้ม และพูดต่อว่า “ข้าและเขาไม่มีบุญวาสนาต่อกัน ความรักมันฝืนกันไม่ได้ ผู้อาวุโสหรือว่าท่านไม่เข้าใจ”
เดิมทีเลี่ยเหยียนก็เป็นคนเจ้าอารมณ์อยู่แล้ว จากตอนแรกที่ได้ยินข่าวการตายของภรรยาของตนเอง จากนั้นก็ยังเห็นกับตาว่าซูหว่านปฏิเสธใจสัมพันธ์กับลูกชายของตนเอง ลมปราณบนตัวเขาเปลี่ยนเป็นโมโหในทันที “จะอยู่กับเช่อเอ๋อร์ หรือจะ…ตาย เจ้าเลือกเอา!”
ในระหว่างที่พูด เลี่ยเหยียนเซียนจวินก็กลายเป็นเงาร่างสีแดงสายหนึ่ง พุ่งไปหาซูหว่านอย่างดุร้าย
“ระวัง!”
สวีเช่อกำลังคิดจะไปขัดขวางตามจิตใต้สำนึกของตน แต่ว่าเขากลับถูกเลี่ยเหยียนเซียนจวินใช้กฎแห่งกาลเวลาให้หยุดอยู่ที่เดิม…
หยุดเวลา!
วินาทีนี้ ทั้งวังใต้ดิน มีเพียงเลี่ยเหยียนเซียนจวินเท่านั้นที่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
ขณะมือของเขากำลังจะจับโดนคอของซูหว่าน ทันใดนั้นเองก็มีแสงสีเงินพุ่งแหวกอากาศเข้ามา
นี่คือ!
เลี่ยเหยียนเซียนจวินตกใจและหยุดการกระทำนั้น และหันไปมองเงาร่างสีขาวที่ลอยมา…
สามารถทะลายกฎแห่งกาลเวลาได้ สามารถเคลื่อนไหวโดยอิสระนอกจากผู้กำกับเวลาแล้ว มีเพียงชนเผ่าเดียวเท่านั้นที่มีความสามารถนี้
แดนรกร้าง เผ่ากลืนวิญญาณ!