สำนักแพทย์อันดับหนึ่ง Re-up

คำโปรย

พอลืมตาตื่นขึ้นมา เขาก็พบว่าตนเองได้มาอยู่ในช่วงยุคบ้านเมืองไร้ความสงบสุข

ม่อไป๋ แพทย์คนหนึ่ง ยังไม่ทันที่เขาจะได้ไปรักษาผู้ใด อันดับแรกเขาต้องพิจารณาก่อนว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ตนเองมีชีวิตรอดหลังจากผ่านไปสามวัน จากนั้นเขายังต้องพิจารณาต่อว่าจะทำอย่างไรจึงจะได้พบกับคนรักผู้เคยไหว้ฟ้าไหว้แผ่นดินด้วยกันที่ถูกจับตัวไป และท้ายที่สุด เพื่อที่จะมีชีวิตรอดในช่วงกลียุคเช่นนี้ เขาจึงตัดสินใจนำความรู้ที่ตนเชี่ยวชาญ เปิดสำนักแพทย์ขึ้นมาท่ามกลางไฟสงครามที่กำลังลุกโชน

ลำดับขั้นการบำเพ็ญเพียรของสำนักเต๋าตามท้องเรื่อง

โดยตามกฎต้องบำเพ็ญเพียรให้สูงขึ้นเรื่อยๆ

๑. ทั่วไป

๒. อาจารย์

๓. ปรมาจารย์

๔. จอมยุทธ์

โดยบางคนอยู่ในขั้นอาจารย์ แต่พอกินยากระตุ้น หรือฝึกวิชาแปลกๆ ผู้คนก็เห็นฤทธิ์เดชเป็นปรมาจารย์ทั้งๆ ที่ยังบำเพ็ญเพียรไม่บรรลุขั้นปรมาจารย์

ส่วนในตอน 368 กล่าวไว้ว่า หากบำเพ็ญเพียรจนถึงขั้นเปลี่ยนรูปพลังปราณและควบคุมให้นิ่งได้จนไร้ช่องโหว่ ก็จะบรรลุเป็นจอมยุทธ์ (ผู้ถ่ายพลังปราณไปไว้ที่กระบี่แต่เปลี่ยนรูปพลังปราณไม่ได้-เดี่ยวดาวใต้) โดยพลังปราณไร้ช่องโหว่ก็คือโล่พลังที่เปรียบเสมือนโล่ ใช้ป้องกันตัว หรือถ้าปล่อยใส่ผู้อื่นก็ทำให้ผู้นั้นเคลื่อนที่ไม่ได้

ส่วนขั้นของม่อไป๋ ม่อไป๋เองเคยบอกว่าตนอยู่ในขั้นอาจารย์หมัด แต่ใครๆ ก็เห็นว่าเขาเป็นปรมาจารย์ เพราะการฝึกวิชาแปลกๆ เช่นวิชาคงกระพัน หมัดปรมัตถ์ ไท้เก็ก ซึ่งไม่มีในยุคที่ม่อไป๋อยู่ (เนื่องจากยุคนี้หรือชาตินี้ของม่อไป๋ยังไม่มีการแบ่งแยกแนวทางเต๋าที่ชัดเจน โดยชาติที่แล้วของม่อไป๋ มีการแบ่งแยกแนวทางเต๋าในยุคปลายวิทยายุทธ์ หรือที่เราคุ้นจากหมัดมวยต่างๆ ของหวงเฟยหงในสมัยปลายราชวงศ์ชิง)

สรุปคือ ม่อไป๋เป็นปรมาจารย์จากการฝึกวิชา ไม่ใช่การบำเพ็ญเพียร และกำลังพัฒนาเป็นจอมยุทธ์ แต่ยังไม่สามารถควบคุมให้นิ่งได้ โล่พลังจึงยังมีช่องโหว่ ให้คู่ต่อสู้จู่โจมได้ โดยยังไม่ถึงกับเป็นโล่พลังที่นิ่งแบบจอมยุทธ์

ตอน 370 เหมือนบรรลุในขั้นใกล้เคียงจอมยุทธ์ แต่ยังไม่เฉลยว่าอยู่ในขั้นไหน รอติดตามกันต่อไปนะเจ้าคะ~