หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) - ตอนที่ 175
ตอนที่ 175 : เจรจา
ทําไมพวกเขาถึงต้องการร่วมมือกับโรแลนด์? โรแลนด์รู้แผนการของพวกเขาได้อย่างดี นักเวทย์ส่วนมากจะให้ความสนใจกับเวทมนตร์และไม่สนใจสิ่งอื่น การที่เขามีพรรคพวกจะทําให้เขามีอํานาจเพิ่มมากขึ้น
ถึงแม้ว่านักเวทย์จะสามารถทําทุกสิ่งได้ด้วยตัวคนเดียว แต่อํานาจจริงๆของเหล่านักเวทย์จะอยู่ที่เหล่าพรรคพวก
ในขณะเดียวกันขุนนางเองก็จะได้ “โล่” ในด้านสว่าง พวกเขาจะแบ่งผลประโยชน์กันอย่างลับๆ และหากเกิดปัญหาขึ้นเขาก็โยนมันไปให้ “เจ้านาย” ของพวกเขา
ภายใต้สัญญาณอันแสนงดงามนั้นมีกับดักอันเลวร้ายซ่อนอยู่
คนที่ไม่ได้คิดมากนักอาจจะตกเข้าสู่หลุมพลาง ทว่าโรแลนด์ไม่ยอมตกไปในกับดักเพียงเพราะคําเยินยอเล็กน้อยหรอก
เขาเพียงแค่ส่ายหน้าและพูดว่า “ฉันไม่สนใจ”
“ขนาดตําแหน่งเงาของเจ้าเมืองยังไม่สามารถดึงดูดความสนใจของเจ้าได้อีกเหรอ?” หญิงชรามองดูโรแลนด์อย่างสงสัยมากกว่าโกรธ “แล้วเจ้าสนใจอะไรล่ะ?”
“เวทมนตร์” โรแลนด์ยืนขึ้นพร้อมยิ้ม “ฉันเป็นนักเวทย์ มันยังไม่ชัดเจนอีกเหรอว่าฉันสนใจแค่เวทมนตร์?”
จากนั้นโรแลนด์ก็เดินออกและจากไป เขาไม่สนใจที่จะอยู่ต่อหลังจากการสนทนาจบลง
หญิงชราที่อยู่ภายในห้องใบหน้าซีดเผือด
โรแลนด์เดินลงบันไดไปและบอกให้วิเวียนไปกับเขา
ระหว่างทางกลับไปยังหอคอยเวทย์ วิเวียนก็ถามว่า “พวกเขาเสนออะไรให้กับท่านงั้นเหรอ?”
“หือ?” โรแลนด์หันหน้าและถาม “พวกเขาโน้มน้าวใจให้เธอมาขอร้องฉันยังไง?”
วิเวียนพูดพร้อมยิ้มหวาน “พวกเขาบอกว่าจะมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้แก่ท่านและท่านจะชอบมัน นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าช่วยพวกเขา”
โรแลนด์ขมวดคิ้ว
“พวกเขาไม่ได้มอบอะไรให้ท่านอย่างนั้นเหรอ?” รอยยิ้มของวิเวียนนั้นหายไป เธอกลายเป็นกังวลและโกรธขึ้นมาเล็กน้อย
“พวกเขาพยายามขุดกับดักให้ฉันเข้าไป” โรแลนด์อธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
“ข้าไม่รู้มาก่อนเลย…” วิเวียนกําหมัดของเธออย่างเย็นชาและต้องการจะเดินกลับที่คฤหาสน์แห่งนั้น
ทว่าโรแลนด์ก็จับแขนเธอไว้และพูดว่า “ลืมมันไปเถอะ ฉันไม่ได้เสียหายอะไรสักหน่อย และนั่นมันก็เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐานของฉันเท่านั้น”
วิเวียนมีความสุขขึ้นมาทันทีเมื่อโรแลนด์จับมือเธอ “ได้ค่ะ ข้าจะเชื่อฟังท่าน”
ทันใดนั้นเอง อําพันขาวก็กระโดดขึ้นไหล่วิเวียนและร้องออกมา
ทว่าวิเวียนกลับเลือกที่จะไม่สนใจสัตว์เลี้ยงของเธอ
เมื่อพวกเขากลับไปยังหอคอยเวทย์ บาร์ดก็เดินเข้ามาหาพวกเขา
“ข้าวางแผนจะกลับไปยังเมืองหลวง” เขาพูดกับโรแลนด์อย่างสบายๆ
โรแลนด์ตกตะลึง “นี่ยังไม่ถึงครึ่งเดือนเลยด้วยซ้ําไม่ใช่เหรอ? มีปัญหาอะไรงั้นเหรอ?”
บาร์ดส่ายหัวออกมาแล้วกล่าวว่า “ข้าเองก็ต้องการอยู่ให้นานกว่านี้ บรรยากาศที่นี่ดีมาก ทุกคนต่างขยันขันแข็งและไม่เกียจคร้าน บางทีพวกเขาอาจจะมีเจ้าที่วิจัยเวทย์ทั้งคืนโดยไม่หลับไม่นอน”
“นายเองก็รู้นี้ว่าบุตรทองคําไม่จําเป็นต้องนอน”
“ข้ารู้ จริงๆแล้วนักเวทย์หนุ่มเช่นข้าก็มักจะไม่นอนเช่นกัน พวกข้ามักจะใช้เวลาส่วนมากไปกับงานเลี้ยงและผู้หญิง เมื่อเทียบกันแล้วเจ้าดูเหมือนกับนักเวทย์แบบดั้งเดิมมากๆ” โรแลนด์ตกตะลึง “ถ้านายชอบที่นี่ทําไมนายถึงกลับไปเร็วนักล่ะ?”
“ข้ามีธุระสําคัญนิดหน่อย”
แม้ว่าบาร์ดจะหยิ่งยโสและโอ้อวด เขาก็เป็นคนที่มีความรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์มากกว่าทุกคนในหอคอยเวทย์
เมื่อสองสามวันก่อนชายคนนี้ได้เผยเคล็ดลับจํานวนมากออกมาโดยไม่ตั้งใจ
ถ้าเป็นไปได้ โรแลนด์ก็หวังว่าบาร์ดจะอยู่นานกว่านี้จนกระทั่งเขามอบความรู้ทั้งหมดแล้ว
ทว่าตอนนี้บาร์ดตั้งใจที่จะจากไป โรแลนด์ก็ไม่ได้ห้ามเขาไว้
ดังนั้นโรแลนด์จึงพูดแค่เพียงว่า “ขอให้เดินทางปลอดภัย
“เจ้าไล่ข้าออกไปง่ายๆเนี่ยนะ?” บาร์ดยิ้มอย่างหยอกล้อ “เอาล่ะ ข้ารู้ดีว่าเจ้ากําลังยุ่งอยู่กับเวทย์หุ่นเชิด ไปถึงไหนแล้วล่ะตอนนี้?”
“ก็ไม่แย่นัก แต่ยังห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบ”
บาร์ดกล่าวอย่างอิจฉา “เจ้าเป็นอัจฉริยะในการบิดเบือนเวทย์เสียจริง ขอเพียงแค่ข้ามีความสามารถเท่ากับเจ้าล่ะก็…”
โรแลนด์ยิ้มและรับคําชมนั่นไว้
“ข้าหวังว่าข้าจะเป็นคนส่งมอบรางวัลให้แก่เจ้าในครั้งหน้า”
บาร์ดออกไปพร้อมกับพรรคพวกเมื่อเขาพูดจบ ด้วยเหตุผลบางอย่าง โรแลนด์สังเกตุเห็นว่าด้านหลังของเขานั้นดูโดดเดี่ยวเป็นอย่างมาก
จากนั้นเขาก็อุทิศตนให้กับการทดลองเวทย์อีกครั้งจนกระทั่งวันใหม่เริ่มต้นขึ้น
โรแลนด์ลุกออกจากแคปซูล หลังจากล้างหน้าแปรงฟัน เขาก็ไปยังห้องแพนด้าในบาร์ของชัค
เขามาถึงค่อนข้างเร็ว จึงมีเพียงแค่ชคและเบทต้าที่อยู่ก่อนแล้ว
ประมาณครึ่งชั่วโมงให้หลัง เพื่อนของเขาทั้งหมดก็มาถึง
ขณะที่เขากินอาหารเช้าที่ชคได้สั่งให้สาวเสิร์ฟเตรียมไว้ก่อนหน้า พวกเขาก็เริ่มคุยกัน
ฮัสเซอเร็ตพูดออกมาเสียงอ้อแอ้ขณะที่กําลังกินกล้วยอยู่ “ตามที่ฉันสืบมา ประธานของเงาแสงจันทร์ชื่อว่า ซีนิค เขานั้นเป็นนักรบที่มีอุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยมตอนนี้เขามีเลเวลหกแล้ว มีคนเล่าว่าเขาเก่งในการ PK มาก เขาได้โพสต์สองบทความสําคัญๆเกี่ยวกับทักษะและอุปกรณ์สวมใส่ของเหล่านักรบภายในฟอรัม”
ชัคหัวเราะออกมา “ทําไมฉันถึงไม่เคยได้ยินชื่อเขามาก่อนล่ะ? หมอนั่นคงไม่ได้เก่งขนาดนั้นหรอก”
ฮัสเซอเร็ตอธิบายออกมา “นั่นเป็นเพราะเงาแสงจันทร์มักจะสิงอยู่ในเกมจําพวกเทิร์นเบสไงล่ะ นายรู้ใช่ไหมว่าเกมแบบนั้นมันล้าสมัยไปแล้ว ดังนั้นเงาแสงจันทร์เลยไม่เคยโด่งดังมาก่อน แต่จริงๆแล้วพวกเขาค่อนข้างมีอํานาจเลยที่เดียว ฉันพูดได้เลยว่าซีนิคเป็นเจ้าสัวในเกมนั้นเลยแหละ”
“ไม่แปลกใจเลยที่เขายอมจ่ายกว่าสิบล้านหยวนเพื่อมังกรของนาย” ลี่หลินพูดออกมาอย่างโกรธๆก่อนจะขยิบตาให้ชัค “นายได้ลิ้มรสเธอรึยังล่ะ?”
ชัคจ้องไปที่เขา “นายโสมมเกินไปแล้วนะพวก ไปชําระล้างจิตใจตัวเองบ้าง”
“ไอ้ขี้ขลาด” ลี่หลินสะบัดแขนของเขาอย่างภาคภูมิใจ “นายต้องหัดเรียนรู้เรื่องพวกนี้จากฉันซะบ้าง”
ชัคหัวเราะเยาะออกมา “เฮ้ ท่านเทพแห่งความรักกําลังจะสอนฉันจีบสาวแล้ว!”
มันแทงใจดําเป็นอย่างยิ่ง เมื่อคิดว่าเขานั้นโดนหลอกไปหลากหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในขณะที่ชัคนั้นมีสาวอ้อนวอนขอไปเดทกับเขา มันเกือบจะทําให้ลี่หลินเสียความเยือกเย็นไปเลย
ทุกคนต่างหัวเราะออกมาและฮัสเซอเร็ตก็พูดต่อว่า “ซีนิคเป็นคนค่อนข้างหยิ่ง แต่เขาก็ทําตัวติดดินและไม่เคยทําอะไรเลวร้ายมาก่อน หากพวกเราโจมตีเขาโดยไม่มีเหตุผลดีๆ มันอาจจะส่งผลต่อชื่อเสียงของพวกเรา F6 ได้”
ชัคโบกมือของเขา “นั่นไม่ใช่ปัญหา! หมอนั่นส่งข้อความจํานวนมากมาหาฉันในฟอรัมเมื่อเร็วๆนี้ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นการคุกคามโดยอ้างว่าเขาจะขอให้แฮกเกอร์ค้นหาตัวจริงของฉัน ฉันจะเอาพวกมันออกมาอ้างหลังจากพวกเราจัดการเขาเสร็จแล้ว และคนอื่นๆจะได้ยืนอยู่ฝั่งเดียวกับพวกเราทุกคนต่างยินดีที่ได้ยินเช่นนั้น โดยเฉพาะลี่หลินที่ถึงกับเขวี่ยงชามลงบนโต๊ะ” หมอนั่นกล้าแค่ในอินเตอร์เน็ตเท่านั้นแหละ หากเขาเข้ามาจู่โจม พวกเราจริงๆ พวกเราจะต้องมอบบทเรียนให้แก่เขาในฐานะลูกหลานของพวกโกงกินและโจรชั่ว”
ตั้งแต่ราชวงศ์ถังสถานที่แห่งนี้ก็เป็นแหล่งรวมของพวกเลวทรามมาตลอด แม้แต่ผู้ที่มาพักอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน บ้านหลังที่เขาเคยพักอาศัยก็กลายเป็นของสําคัญทางประวัติศาสตร์ ถึงแม้ว่าโรแลนด์จะรู้สึกว่าบ้านหลังนี้ได้รับการปรับปรุงมาหลากหลายครั้งแล้วก็ตามเพราะมันดูใหม่มาก
คนในพื้นที่ต่างมีรายชื่อบรรพบุรุษของพวกเขาและพวกเขาก็รู้ที่มาของพวกเขาดีนั่นทําให้พวกเขาแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
ด้วยเหตุนี้เองคนที่นี่ถึงก้าวร้าวกว่าปกติ ในทศวรรศที่ผ่านมามีการต่อสู้ระหว่างเด็กเพียงแค่สองคนลุกลามไปถึงการทะเลาะเบาะแว้งกันในครอบครัว
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ คนหนุ่มต่างหันมาสนใจอินเตอร์เน็ตมากขึ้นและเลิกที่จะทะเลาะเบาะแว้งกันเอง ทําให้ที่นี่สงบสุขขึ้นมากกว่าแต่ก่อน
จากมุมมองนี้จะเห็นได้ว่าอินเตอร์เน็ตได้เปลี่ยนพฤติกรรมของพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัวเสียอีก ถึงแม้ว่าจะสงบสุขกว่าแต่ก่อน แต่คนในพื้นที่ไม่ได้กลัวคนภายนอกแต่อย่างใดหากพวกเขามาหาเรื่อง คนภายนอกจะมาจัดการกับครอบครัวหรือคนทั้งหมู่บ้านได้ยังไงกัน?
“ได้ข่าวมาว่าฐานของพวกเขาอยู่ที่อินาสซึ่งเป็นสถานที่ที่เจ้าหญิงต้องมาอาศัยก่อนจะแต่งงาน และตอนนี้เจ้าหญิงก็อาศัยอยู่ที่นั่น” ฮัสเซอเร็ตหัวเราะ “ซีริคได้สร้างฐานเอาไว้ตรงนี้เพราะเขาอยากจจะจีบเจ้าหญิง และหากมันได้ผล เขาก็จะกลายเป็นขุนนางของฮอลเลวิล”
ฮัสเซอเร็ตชายรูปร่างผอมและเตี้ยซึ่งชื่นชอบในเรื่องซุบซิบ นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทําไมเขาถึงเหมาะกับอาชีพโจรมากที่สุด
เขารวบรวมข้อมูลจํานวนมากภายในเวลาไม่กี่วันเท่านั้น
ชัคกางแผนที่ของฮอลเลวิลลงบนโต๊ะและไม่นานก็พบกับอินาสบนแผนที่
เขามาร์ดจุดบนแผนที่ “พวกนายอยู่ห่างจากที่นั่นเท่าไหร่?”
ทุกคนต่างมองไปที่แผนที่และพูดว่า “ไม่ไกลมาก”
“ฉันสามารถไปถึงที่นั่นได้ไม่เกิน 15 วัน”
ชักยิ้ม “ฉันอยู่ในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ในฟาเลียนซึ่งห่างจากที่นี่ถึงสี่พันกิโล แต่ไม่เป็นไรฉันมีมังกรอยู่”
ทุกคนจ้องมองไปที่เขาอย่างโกรธแค้น ชัคก็พูดอวดออกมา “พวกนายเองก็ทําสัญญากับสัตว์เลี้ยงนี่แต่มันไร้ประโยชน์ มันไม่ได้ดีไม่ได้ครึ่งของมังกรด้วยซ้ํา ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ทุกคนต่างยกนิ้วกลางออกมาอย่างไม่พอใจ
ลี่หลินดื่มไวน์เข้าไปอีกใหญ่พร้อมทําใบหน้าเคร่งเครียดก่อนที่เขาจะยิ้มขึ้นมาและพูดว่า “เออใช่ ฉันมีความลับจะบอก โรแลนด์เดทกับสาวอยู่ แถมเขายังเก็บเป็นความลับจากพวกเราดวย นายคิดว่าพวกเราควรจะจัดการหมอนี่ไหม?”
ทันใดนั้น ทุกสายตาก็มองไปยังโรแลนด์ด้วยความอยากรู้
โรแลนด์งงไปทันที “ฉันเนี่ยนะเดทกับสาว? ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ทําไมฉันไม่เห็นรู้เลย?”