จักรพรรดิมังกร - บทที่ 821 โอนหุ้นให้คนอื่น
นับตั้งแต่หลี่โม่คืนสัญญาให้กับตน ดวงตาของกู้เจี้ยนกั๋วก็แทบจะเป็นประกาย รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าทันที แต่ใครจะรู้ว่าจะมีคนฉกสัญญาไปจากมือของเขาในวินาทีถัดมา
กล้ามเนื้อบนใบหน้าของกู้เจี้ยนกั๋วกระตุก ความโกรธปรากฏให้เห็นทันที เมื่อเขาเห็นว่าคนที่ฉกสัญญาไปเป็นคุณชายหลิน ความโกรธของเขาก็คลายลงไปมาก อยากจะร้องไห้แต่ก็ไม่มีน้ำตา “คุณชายหลิน สัญญาฉบับนี้บอกชัดเจนไม่ใช่เหรอว่า ต้องการร่วมมือกับบริษัทของตระกูลกู้?”
“แม้ว่าสัญญาจะบอกชัดเจนว่าต้องการร่วมมือกับบริษัทของตระกูลกู้ แต่ผมไม่ได้บอกว่าจะร่วมมือกับคุณ” คุณชายหลินชำเลืองดูสัญญาอย่างหงุดหงิด แล้วยื่นสัญญาให้หลี่โม่อีกครั้ง พลางยิ้มและกล่าวว่า “นอกจากคุณหลี่ สัญญาฉบับนี้ใครก็แตะต้องไม่ได้”
ตอนนี้กู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่นๆ ล้วนสับสน แม้แต่คุณปู่กู้ก็ยังทำนิ่งอยู่ไม่ได้แล้ว หากสัญญาอยู่ในมือของหลี่โม่ แล้วถ้าเกิดหลี่โม่แก้ไขเนื้อหาในนั้น มันจะไม่เป็นอันตรายหรอกหรือ?
พวกเขาสับสนอยู่ครู่หนึ่ง พูดเช่นนี้ก็หมายความว่าสัญญาฉบับนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขาเลยงั้นหรือ?
“ถ้าพวกคุณยังต้องการแย่งมันไป ผมก็จะยกเลิกความร่วมมือ” คุณชายหลินเอ่ยปาก
สีหน้าของกู้เจี้ยนกั๋วเปลี่ยนไปมากและตื่นตระหนก เขารีบบอกว่า “อย่ายกเลิกนะครับ ถ้ายกเลิกแล้วบริษัทของพวกเราก็จบแน่
คุณปู่กู้ตำหนิหลี่โม่ “หลี่โม่ คุณคิดจะเป็นศัตรูกับเราเต็มตัว ต้องฆ่าเราให้ได้ คุณถึงจะวางใจใช่ไหม?”
“คุณชายหลินบีบบังคับผม ผมเองก็ไม่มีทางเลือก” หลี่โม่กล่าวพร้อมกับผายมือหน้าตาใสซื่อ
คุณปู่กู้ขมวดคิ้วแน่น เขาเข้าไปยุ่งอะไรกับบริษัทของตระกูลกู้ไม่ได้มากนัก เขาบอกกับกู้เจี้ยนกั๋วและกู้เจี้ยนเจียงโดยจิตใต้สำนึกว่า “พวกแกทั้งสองควรปฏิบัติตามสัญญาดีกว่า โอนหุ้นของบริษัทให้กับกู้หยุนหลัน”
“พ่อครับ หุ้นพวกนี้คือชีวิตของพวกเรา” กู้เจี้ยนกั๋วและกู้เจี้ยนเจียงพูดด้วยสีหน้าอึดอัดใจ
คุณปู่กู้กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “พวกแกอยากมีชีวิตอยู่ หรือต้องการให้ตระกูลกู้ล่มจมไปพร้อมกับพวกแก”
เมื่อกู้เจี้ยนกั๋วและกู้เจี้ยนเจียงได้ยินดังนั้น ก็สงบปากสงบคำทันที สำหรับพวกเขาแล้ว ชีวิตสำคัญที่สุด แต่พวกเขาไม่เต็มใจที่จะมอบหุ้นของตัวเองให้คนอื่น
คิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่แล้ว ถ้าโอนหุ้นไป มากที่สุดก็แค่สูญเสียผลประโยชน์ของตัวเอง พวกเขารู้ว่า ถ้าหากไม่ตัดสินใจในตอนนี้ก็คงจะไม่ได้แล้ว
พวกเขาไม่เต็มใจเป็นอย่างยิ่ง ในที่สุดภายใต้สายตาที่จับจ้องจากคุณปู่กู้ กู้เจี้ยนกั๋วกับกู้เจี้ยนเจียงจึงต้องจำใจโอนหุ้นของตัวเองทั้งหมดไปให้กู้หยุนหลัน
พอกู้เจี้ยนหมินกับหวังฟางเห็นลูกสาวได้รับหุ้นมามากมายก็อดดีใจไม่ได้ ต้องรู้ว่ากู้เจี้ยนกั๋วและกู้เจี้ยนเจียงมีหุ้นอยู่ในบริษัทของตระกูลกู้ถึงร้อยละเก้าสิบ
พวกเขาก็คิดไม่ถึงว่าเมื่อครู่นี้ยังเป็นนรกอยู่ แต่ตอนนี้กลายเป็นสวรรค์แล้ว
กู้หยุนหลันไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นจนเกินไปนัก เธอคุ้นชินกับมันแล้วด้วยซ้ำ มันเป็นของเธอตั้งแต่แรก แต่ลุงใหญ่และลุงรองมาแย่งไป
“กู้หยุนหลัน คอยดูเถอะ หุ้นพวกนี้พวกเราต้องได้คืนมาไม่ช้าก็เร็ว” กู้เจี้ยนกั๋วและกู้เจี้ยนเจียงพ่นลมหายใจแรงออกมาพร้อมกันโดยปริยาย
กู้หยุนหลันแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินแล้วเซ็นชื่อลงไป จากนั้นคุณชายหลินก็มอบสัญญาให้หลี่โม่ด้วยความโล่งใจ หลี่โม่ส่งสัญญาให้กู้หยุนหลัน
หลังจากกู้เจี้ยนกั๋วสังเกตเห็นจุดสำคัญนี้แล้ว ก็อดพูดขึ้นมาไม่ได้ว่า “ไหนคุณบอกว่าจะให้สัญญาฉบับนี้กับหลี่โม่เท่านั้นไง? ตอนนี้เขาเอาสัญญาไปให้คนอื่นแล้ว คุณไม่ห้ามเขาเหรอ?”
“ทำไมผมต้องห้ามเขาด้วย?” สายตาที่คุณชายหลินมองไปที่กู้เจี้ยนกั๋วเหมือนกำลังมองคนปัญญาอ่อน บุ้ยปากพูดว่า “พวกเขาเป็นสามีภรรยากัน มันเป็นเรื่องปกติ แต่ของคุณน่ะเป็นการขโมยอย่างโจ่งแจ้ง”
มุมปากของกู้เจี้ยนกั๋วกระตุกเล็กน้อย โกรธจนพูดไม่ออก การปฏิบัติสองมาตรฐานนี้มันมากเกินไปแล้ว เห็นได้ชัดว่ามีเจตนาทำให้เขาลำบาก
ในเวลานี้เขาได้มองตาปริบๆ ไม่กล้าที่จะโกรธมากเกินไป
“หลี่โม่ คอยดูเถอะ เรื่องนี้ผมจะไม่ยอมเลิกราง่ายๆ แน่นอน!” กู้เจี้ยนกั๋วกัดฟันพูด เดิมทีเขาวางแผนที่จะรวบหุ้นของกู้หยุนหลันในกิจการหยุนจงหลัน แต่ใครจะคาดคิด หุ้นของตัวเองกลับกลายไปเป็นของกู้หยุนหลัน
ขโมยไก่ไม่ได้ เสียข้าวสารอีกกำมือ ทำให้เขาไม่พอใจมาก ไม่สามารถข่มกลืนความโกรธนี้ลงไปได้เลย
คุณปู่กู้แกล้งทำเป็นไม่เห็นอะไรเลย ตราบใดที่เขาไม่ได้รับผลกระทบ เขาจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวมากเกินไป ขอเพียงบริษัทของตระกูลกู้ไม่เป็นอะไรก็พอแล้ว
หลังจากที่กู้หยุนหลันได้ความร่วมมือจากตระกูลหลินแล้ว เธอรู้สึกเหมือนฝัน ทุกอย่างเป็นภาพฝันเกินไป กู้ชิงหลินคิดเพียงว่าตระกูลหลินจะส่งสัญญามาเท่านั้น แต่สิ่งที่ทำให้เธอคาดไม่ถึงก็คือ ตระกูลหลินได้ช่วยให้กู้หยุนหลันได้รับหุ้นของบริษัทตระกูลกู้ทางอ้อม
คุณชายหลินเห็นภารกิจของตัวเองเสร็จสิ้นแล้ว เขาก็บอกกับหลี่โม่ว่า “คุณหลี่ ผมขอตัวก่อนนะ หวังว่าคุณจะไม่เก็บเอาเรื่องในอดีตมาใส่ใจ”
ประโยคสุดท้ายคือการร้องขอชีวิตของเขา เขากลัวว่าหลี่โม่จะยังผูกใจเจ็บที่เขาช่วยเหลือฝ่ายตรงข้ามเรื่องนี้
เจ้าบ้านตระกูลหลินรู้สึกกังวลมากเช่นกัน ถ้าจู่ๆ หลี่โม่เกิดเปลี่ยนใจ รายงานต่อท่านเทียนขึ้นมา ไม่เท่ากับถึงที่ตายหรอกเหรอ เขามีเหงื่อออกที่ฝ่ามือด้วยความตื่นเต้นอย่างควบคุมไม่อยู่
หลี่โม่รู้ว่าสองคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ เขายิ้มเล็กน้อยพลางพูดว่า “ครับ”
เมื่อคุณชายหลินและเจ้าบ้านตระกูลหลินได้ยินดังนั้น ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างแรง พวกเขามองออกได้ไม่ยากว่าหลี่โม่ให้อภัยพวกเขาแล้ว
โอกาสดีๆ เช่นนี้ พวกเขาย่อมไม่พลาดแน่นอน พวกเขาประกบมือคำนับให้หลี่โม่โดยจิตใต้สำนึกแล้วออกจากตระกูลกู้
จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถตอบสนองอะไรได้ ตลอดเวลาเจ้าบ้านตระกูลหลินและคุณชายหลินมีท่าทีเกรงอกเกรงใจหลี่โม่เหลือเกิน พวกเขาไม่เข้าใจว่าหลี่โม่ได้ช่วยเหลือเจ้าบ้านของตระกูลกู้อย่างไร เหตุใดถึงทำให้คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ปฏิบัติต่อเขาเช่นนี้
บรรดาญาติๆ ตระกูลกู้ที่เคยเย้ยหยันหลี่โม่เอาไว้ก่อนหน้านี้พูดอะไรไม่ออกในทันที พวกเขาคิดถึงที่เหน็บแนมหลี่โม่เอาไว้เมื่อครู่ว่า ไม่สามารถทำให้คนของตระกูลกู้มาขอโทษได้ ตอนนี้ทุกอย่างตรงหน้าได้ตบหน้าพวกเขาดังเผียะ
“พ่อครับ เรื่องหุ้นอันนั้น” กู้เจี้ยนกั๋วฝืนเชิดหน้ามองคุณท่านโดยอัตโนมัติ หวังว่าอีกฝ่ายจะช่วยเขาได้ ถ้าคุณท่านเอ่ยปาก อย่างน้อยเขาก็จะได้หุ้นคืนมาบ้าง
สีหน้าของคุณปู่กู้ขรึมลง เขาไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับความยุ่งเหยิงนี้อีกแล้ว และไม่ต้องการที่จะเป็นคนเลว เขาโบกมือไปมา
กู้เจี้ยนกั๋วรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก เขาจะมองไม่ออกได้อย่างไรว่าคุณท่านไม่เต็มใจช่วยเหลือเรื่องนี้แล้ว เขาจ้องมองกู้เจี้ยนหมินด้วยสายตาที่เย็นชาโดยสัญชาตญาณ แล้วถามว่า “น้องสาม นายทำแบบนี้ไม่ค่อยถูกต้องนักนะ นายคิดว่าเรื่องนี้จะจัดการยังไงดี?”
กู้เจี้ยนหมินพูดไม่ค่อยเก่ง บวกกับคำพูดที่เฉียบขาดของกู้เจี้ยนกั๋ว ทำให้กู้เจี้ยนหมินรู้สึกลำบากใจขึ้นมาชั่วขณะหนึ่ง หลี่โม่ช่วยพูดแทนพ่อตาโดยอัตโนมัติ “ลุงใหญ่ คุณคงไม่บิดพลิ้วใช่ไหม ถ้าคุณต้องการหุ้นคืน คุณก็ต้องตั้งใจทำงานในบริษัทให้ดี บางทีอาจจะยังมีหุ้นได้หนึ่งเปอร์เซ็นต์”
คำพูดเย้ยหยันของหลี่โม่เป็นเหมือนดาบที่แทงเข้าที่หน้าอกของกู้เจี้ยนกั๋วอย่างจัง สีหน้าของเขาดูมืดมนน่ากลัวจนเหมือนจะละลายออกมา