แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 2343 คิดผิดไปเรื่องหนึ่ง / บทที่ 2344 ทุกอย่างเป็นภาพลวงตา
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 2343 คิดผิดไปเรื่องหนึ่ง / บทที่ 2344 ทุกอย่างเป็นภาพลวงตา
บทที่ 2343 คิดผิดไปเรื่องหนึ่ง
“ทำให้คุณหนูอี้ต้องขบขันแล้ว” อินเยวี่ยหรงมองเยี่ยหวันหวั่น เอ่ยพลางยิ้มบางๆ
“ถ้าตุลาการอินไม่มีธุระแล้ว ฉันก็ขอตัวก่อน” พอเยี่ยหวันหวั่นพูดจบ ก็ลุกขึ้นเตรียมจากไป
อินเยวี่ยหรงเห็นดังนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า “คุณหนูอี้ ยังมีเวลาอยู่ ไม่ต้องรีบขนาดนั้นหรอก…อันที่จริง วันนี้ที่เชิญคุณหนูอี้มา ยังมีอีกเรื่องหนึ่งอยู่”
พออินเยวี่ยหรงพูดจบ เยี่ยหวันหวั่นก็หยุดลง จากนั้นก็หันไปมองอินเยวี่ยหรงแวบหนึ่ง “ไม่ทราบว่าตุลาการอิน ยังมีเรื่องอะไรจะพูดอีก”
“ฉันรู้มาว่าคุณหนูอี้ศึกษาอยู่ที่สถาบัน Mdff บังเอิญว่า ทางฉันมีแขกคนหนึ่งที่เรียนในสถาบัน Mdff เหมือนกัน คนมีชื่อเสียงแบบคุณหนูอี้ อยู่ที่สถาบัน Mdff คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก เธอนับถือคุณหนูอี้มาก อย่างไรซะคุณหนูอี้ก็มาแล้ว ไปไม่พบหน้ากันดูสักหน่อยเถอะ” อินเยวี่ยหรงกล่าว
“หืม”
เยี่ยหวันหวั่นมองอินเยวี่ยหรง ด้วยสีหน้าเฉยเมย “แต่ฉันกลับไม่สนใจเท่าไรนะ”
อินเยวี่ยหรงไม่ให้โอกาสเยี่ยหวันหวั่นได้พูดอะไรต่อ ส่งสายตาให้แม่นมเฉียวแล้ว
แม่นมเฉียวรับรู้ จึงหันหลังเดินออกไป
เวลาผ่านไปไม่กี่ช่วงลมหายใจ เด็กสาววัยรุ่นในชุดทันสมัยคนหนึ่ง ก็เดินตามแม่นมเฉียวเข้ามา
“ตุลาการอิน…”
เด็กสาวเรียกอินเยวี่ยหรง
“อืม หลี่เยวี่ยหรง เธอก็เรียนที่สถาบัน Mdff นี่ น่าจะรู้จักลูกสาวประธานสภาตุลาการของรัฐอิสระเรานะ อี้อวิ๋นโม่ไง” อินเยวี่ยหรงเอ่ยพลางยิ้มให้เด็กสาว
หญิงสาวฟังแล้วพยักหน้ารับ “ตุลาการอินคะ รุ่นพี่อี้อวิ๋นโม่เป็นคนดังในสถาบัน Mdff ของพวกเรา ฉันต้องรู้จักเธอแน่อยู่แล้วค่ะ แถมยังเคยเจออยู่สองสามครั้งด้วย…”
“แบบนั้นก็ดีเลย บังเอิญว่า วันนี้คุณหนูอี้อวิ๋นโม่มาเป็นแขกที่บ้านฉันพอดี เธอก็นับว่าเป็นรุ่นน้องของคุณหนูอี้ มากินข้าวด้วยกันสักมื้อเถอะ” อินเยวี่ยหรงเอ่ย
“อา…รุ่นพี่อี้อวิ๋นโม่เหรอคะ” พอได้ฟังคำพูดของอินเยวี่ยหรง สีหน้าของเด็กสาวก็แปรเปลี่ยนไปทันที
“แต่ว่า ตุลาการอินคะ รุ่นพี่อี้อวิ๋นโม่อยู่ที่ไหนล่ะคะ ทำไมฉันไม่เห็นเลย” เด็กสาวเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง
“ไม่เห็นเหรอ” อินเยวี่ยหรงเหลือบมองเยี่ยหวันหวั่นที่อยู่ด้านข้างแวบหนึ่ง “คนเป็นๆ อยู่ตรงนี้ เธอมองไม่เห็นรึไง”
“เธอเหรอคะ” เด็กสาวมีสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย “ตุลาการอินคะ…ผู้หญิงคนนี้ ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลยค่ะ”
“โอ้ เธอไม่ใช่เหรอ” อินเยวี่ยหรงถาม
เด็กสาวส่ายหน้า “ตุลาการอินคะ เธอไม่ใช่รุ่นพี่อี้อวิ๋นโม่แน่นอนค่ะ ถึงแม้รุ่นพี่อี้อวิ๋นโม่จะไม่รู้จักฉัน แต่ฉันรู้จักเธอค่ะ ผู้หญิงคนนี้ ฉันไม่เคยเจอมาก่อนเลย เธอไม่ใช่รุ่นพี่อี้อวิ๋นโม่แน่นอนค่ะ!”
“เธอแน่ใจนะ” อินเยวี่ยหรงเอ่ยสีหน้าคลางแคลง
“ใช่ค่ะตุลาการอิน ฉันกล้ายืนยันเลยว่า เธอไม่ใช่อี้อวิ๋นโม่แน่นอน” ใบหน้าของเด็กสาวเต็มไปด้วยความมั่นใจ
เวลานี้ เยี่ยหวันหวั่นหยักมุมปากขึ้นเล็กน้อย มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มประหลาด
ดูเหมือนว่า อินเยวี่ยหรงคนนี้ยังไม่ยอมแพ้ เตรียมแผนสุดท้ายนี้มาหยั่งเชิงตัวเอง
ต้องบอกเลยว่า อินเยวี่ยหรงคนนี้ ระแวดระวังมาก กลอุบายก็มากมาย แต่น่าเสียดาย ตั้งแต่ต้นจนจบ อินเยวี่ยหรงกลับคิดพลาดไปเรื่องหนึ่ง
อินเยวี่ยหรงคิดว่า ตัวเองปลอมตัวเป็นอี้อวิ๋นโม่ และสวมรอยใช้ตัวตนอี้อวิ๋นโม่ เพื่อหลอกลวงอี้หลิงจวิน
แต่อินเยวี่ยหรงกลับไม่ทราบว่า บนโลกนี้ ทีแรกก็ไม่มีอี้อวิ๋นโม่คนนี้อยู่แล้ว
ช่วงก่อนหน้านี้ คนของตระกูลอิน เคยไปตรวจสอบฐานะของอี้อวิ๋นโม่ที่สถาบัน Mdff มาแล้ว แต่อี้หลิงจวินเป็นคนแบบไหนกันล่ะ มีหูตาอยู่ทั่วหล้า จัดแจงประวัติในสถาบัน Mdff ไว้ให้ตัวเองก่อนแล้ว แน่นอนว่าอินเยวี่ยหรงคนนี้ไม่มีทางสืบพบอะไร ดังนั้น เป็นไปไม่ได้ที่เธอใช้คนจากสถาบัน Mdff มาทดสอบเธอได้อีก
—————————————————————————————
บทที่ 2344 ทุกอย่างเป็นภาพลวงตา
เพราะฉะนั้น เด็กสาวที่อยู่ตรงหน้านี้ ไม่ใช่นักเรียนของสถาบัน Mdff เป็นแค่คนที่อินเยวี่ยหรงต้องการใช้หยั่งเชิงท่าทีของตัวเอง
ถ้าตัวเองสวมรอยเป็นอี้อวิ๋นโม่จริงๆ พอเจอนักเรียนจากสถาบัน Mdff อีกทั้งนักเรียนคนนี้ยังไม่รู้จักตัวเอง แบบนั้นต่อให้สมบทบาทแค่ไหน ก็ต้องเผยพิรุธแน่
วิธีของอินเยวี่ยหรงพลาดไปแล้ว ตั้งแต่ต้นจนจบมีแค่โอกาสเดียวเท่านั้นที่เธอสามารถใช้หยั่งเชิงตนได้ ก็คือการลงมือกับผู้อาวุโสสาม แต่น่าเสียดาย อินเยวี่ยหรงพลาดโอกาสนี้ไปแล้ว
หรือที่ไม่ลงมือจะเป็นเพราะกังวลถึงซือเยี่ยหาน
เมื่อครู่พอเยี่ยหวันหวั่นได้ยินเด็กสาวที่อ้างตัวว่ามาจากสถาบัน Mdff บอกว่าไม่รู้จักตน อีกทั้งเคยเจอเยี่ยหวันหวั่นที่สถาบัน Mdff มาก่อน เยี่ยหวันหวั่นเกือบหลุดขำแล้ว
เด็กโง่…มีอี้อวิ๋นโม่ซะที่ไหน ทุกอย่างเป็นภาพลวงตาทั้งนั้น
อินเยวี่ยหรงมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยความสนใจ “คุณหนูอี้ เธอว่าแปลกรึเปล่า ทำไมรุ่นน้องจากสถาบัน Mdff ของเธอไม่รู้จักเธอล่ะ เรื่องนี้น่าสนใจมากนะว่าไหม”
พออินเยวี่ยหรงพูดจบ ทันใดนั้น บอดี้การ์ดมากมายของตระกูลอินก็กรูกันเข้ามาในห้อง และปิดล้อมไว้อย่างแน่นหนา
เยี่ยหวันหวั่นมองบอดี้การ์ดตระกูลอินพวกนั้น แต่ไม่ได้พูดอะไร
“สรุปแล้วฉันควรเรียกเธอว่าคุณหนูอี้ หรือว่า ควรเรียกเธอว่าคุณหนูเนี่ยดีล่ะ…” เมื่อเห็นเยี่ยหวันหวั่นไม่พูดอะไร อินเยวี่ยหรงจึงหัวเราะเสียงเย็นแล้วเอ่ยกับเยี่ยหวันหวั่น
วินาทีต่อมา เยี่ยหวันหวั่นก็ลุกจากโซฟาอย่างสง่างาม มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มประหลาด เมินเฉยต่อบอดี้การ์ดตระกูลอินที่อยู่รอบๆ ค่อยๆ ก้าวเข้าไปหาอินเยวี่ยหรง
ไม่นาน เยี่ยหวันหวั่นก็เดินไปถึงตัวอินเยวี่ยหรง “อะไรกัน ตุลาการอินชอบเปลี่ยนแซ่ให้คนอื่นสินะ”
อินเยวี่ยหรงฟังแล้ว คิดจะเปิดปากพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับถูกเยี่ยหวันหวั่นโบกมือขัดไว้
จากนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าเยี่ยหวันหวั่นก็เลือนหายไป สีหน้าเยียบเย็น และค่อยๆ เปล่งน้ำเสียงที่เหน็บหนาวเข้าไปถึงในกระดูกออกมา “อินเยวี่ยหรง ถ้าเธออยากเล่นอะไร ก็ยกออกมาวางบนโต๊ะให้หมดเถอะ ฉันจะเล่นกับเธอเอง”
อินเยวี่ยหรงจ้องเยี่ยหวันหวั่น พลางมุ่นหัวคิ้วนิดๆ
“อินเยวี่ยหรง วันนี้ฉันเห็นแก่หน้าซือเยี่ยหานเลยตอบรับคำเชิญของเธอ และเห็นแก่ที่เธอเป็นแม่ของซือเยี่ยหาน เลยไม่ถือสาเธอ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยราวกับผู้ยิ่งใหญ่ที่มีอำนาจเหนือกว่า “สุดท้ายจะบอกเธอไว้สักประโยค อยู่ต่อหน้าฉัน อย่าได้ทำตัว…ให้หน้าแล้วยังไม่ไว้หน้าอีก”
พอเยี่ยหวันหวั่นพูดจบ ก็เดินเฉียดไหล่อินเยวี่ยหรงไป เผชิญหน้ากับบอดี้การ์ดมากมายของตระกูลอิน “ไสหัวไป”
หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดมองอินเยวี่ยหรงแวบหนึ่ง จากนั้นก็พิจารณาดูเยี่ยหวันหวั่นครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็หลีกทางให้อย่างรู้ความ
เวลานี้ สีหน้าของอินเยวี่ยหรงมืดครึ้มราวกับจะคั้นน้ำออกมาได้ แต่ในไม่ช้าก็กลับมาตีหน้ายิ้มได้อีกครั้ง “คุณหนูอี้ ฉันคิดว่านี่เป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งนั้น”
“เข้าใจผิดหรือไม่ ฉันไม่สน อินเยวี่ยหรง เธอจำคำฉันไว้ ตัวฉันในตอนนี้ สนใจแค่ลูกชายของเธอ แค่นี้เท่านั้น”
พอเยี่ยหวันหวั่นพูดจบ ก็สาวเท้าจากไปโดยไม่หันกลับมา “จะใช่ความเข้าใจผิดไหม หรือเธอมีเป้าหมายอะไร ฉันไม่อยากรู้ ได้แค่ครั้งนี้เท่านั้น ถ้ายังมาหยามกันอีก ก็รอรับผลจาการกระทำของตัวเองซะ”
เมื่อเห็นเยี่ยหวันหวั่นออกจากตระกูลอินไป แม่นมเฉียวก็มีสีหน้าร้อนรนอยู่บ้าง ครั้งนี้นายหญิงทำเกินไปจริงๆ ถึงยังไงฐานะของผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ธรรมดา
หลังจากเยี่ยหวันหวั่นไปแล้ว ใบหน้าของอินเยวี่ยหรงก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มเยียบเย็นเข้าไปถึงกระดูก “ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อเธอล่ะก็…อี้อวิ๋นโม่ เธอคงกลายเป็นศพไปแล้ว”
“นายหญิงคะ ต้องบอกเลยว่า อี้อวิ๋นโม่คนนั้น โอหังเหลือเกิน ต่อให้เป็นประธานอี้ ก็ไม่เคยใช้ท่าทีแบบนี้กับนายหญิงเลยนะคะ” หลังจากแม่นมเฉียวให้ทีมบอดี้การณ์แยกย้ายกันออกไป ก็เอ่ยกับอินเยวี่ยหรง
—————————————————————————————