Gate of God - ตอนที่ 862 ข้ายังไม่พร้อม
”อีกรอบ?ท่านเฉียน ท่านไม่เป็นไรจริงๆเหรอกับการที่ลูกสาวจะถูกทำร้าย?” โม่ฉานฉือหรี่ตาลง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา เขาต้องการสร้างพันธมิตรกับหอคอยหลิงหยุน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมแพ้ในการแข่งขัน
นอกจากนี้เฉียนยู่ปฏิบัติกับเขาราวกับเป็นคนโง่ เขาจะทนได้อย่างไร
”ไม่สำคัญข้าเชื่อว่าผู้นำโม่คงรู้ถึงขีดจำกัดของตัวเองดี” เฉียนยู่ส่ายหัวพร้อมกับหลับตาลง นางจะไม่พูดอะไรอีก
”ขีดจำกัด?”โม่ฉานฉือกำมือแน่น เขาไม่รู้ว่าเรื่องที่นางพูดหมายความว่ายังไง แต่เขารู้ว่าถ้ายังปล่อยไว้แบบนี้ หุบเขาฟู่ซี่จะต้องถูกตัดออกจากการแข่งขันรอบแรกเป็นแน่
โม่ฉานฉือเงียบไปชั่วขณะดวงตาของเขาเบิกกว้างเป็นประกาย ก่อนจะเปิดปากพูด “ฉิงเฟิง จำไว้ว่าห้ามฆ่านาง!” ”รับทราบอาจารย์” หลังจากโม่ฉานฉือออกคำสั่ง เขาตอบรับในทันที
ชายหนุ่มที่มีรอยแผลบนหน้าผากทั้งยังมีร่างกายที่กำยำ
”ฉิงเฟิง?เป็นชื่อที่คุ้นหูนัก …หรือว่า ฉิงเฟิงแห่งอาณาจักรนักรบสูงสุด?”
”ข้าคิดว่าต้องใช่เขาแน่ข้าได้ยินว่าฉิงเฟิงได้รับการยกย่องเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของอาณาจักรนักรบสูงสุด อย่างไรก็ตามไม่มีใครได้ยินชื่อเขาอีกเลยหลังจากไปเข้าร่วมกับหุบเขาฟู่ซี่เมื่อสี่ปีก่อน”
”บางทีพวกเขาอาจต้องการจบเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด!”เหล่าศิษย์เริ่มกังวลเกี่ยวกับปิงหยาง เมื่อเห็นฉิงเฟิงถูกส่องออกมา
ผู้คนมักเห็นใจผู้เสียเปรียบอยู่เสมอและในสถานการณ์เช่นนี้ ปิงหยางย่อมเป็นฝ่ายแพ้
”ข้าฉิงเฟิงแห่งหุบเขาฟู่ซี่อายุ 26 ปี อยู่ในระดับจุติขั้นสูงสุด เมื่อปีก่อน ข้าได้พบกับกังซินที่อยู่ในระดับเซียน พวกเราไม่สามารถตัดสินแพ้ชนะได้หลังจากแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันถึง 300 กระบวนท่า” ฉิงเฟิงก้าวไปข้างหน้าและประกาศชื่อตนอย่างเยือกเย็น
”พวกเขา…ส่งคนที่มีความสามารถเทียบเท่าเซียนออกมา!”
”นั่นมันเกินไปแล้ว!”
”หุบเขาฟู่ซี่ไร้ยางอายเกินไปแล้ว”เหล่าศิษย์เห็นใจปิงหยาง
หลังจากได้ยินการประกาศตนของฉิงเฟิงพวกเขาต่างก็ส่งเสียงไม่พอใจออกมา
”เทียบเท่าเหล่าเซียน…แข็งแกร่ง เจ้าต่อให้ข้าก่อนสักสิบกระบวนท่าได้ไหม?”ปิงหยางดูหวาดกลัว
”นี่เกี่ยวกับศักดิ์ศรีของหุบเขาฟู่ซี่ข้าจะทำแบบนั้นได้อย่างไร?” ฉิงเฟิงเหมือนจะเดาออกว่าปิงหยางอยากจะพูดอะไร เขาตอบนางเพียงประโยคสั้นๆ
”ถ้างั้น…ให้ข้าเริ่มก่อนได้ไหม?” ปิงหยางยังคงพยายามต่อไป ”เจ้าจะทำได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้า!”
”เจ้าจะเอาชนะข้าได้ด้วยการโจมตีครั้งเดียวไหม?”
”นั่นก็อาจเป็นไปได้ถ้าเจ้ากลัวก็แค่ยอมแพ้ไป ข้าไม่อยากทำเรื่องให้มันยุ่งยากกับตัวเจ้าและหอคอยหลิงหยุนเองก็สามารถส่งคนที่แข็งแกร่งกว่าเจ้ามาแทนได้”
”แต่ข้ายังอยากเล่นต่อ!”
”งั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นก็อย่ามาโทษข้า!” ฉิงเฟิงพยักหน้าและหันมองผู้ประกาศ “พวกเราพร้อมแล้ว!”
”อืม”ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์พยักน้าและมองปิงหยาง
”น้องหญิงปิงหยางการแข่งกำลังจะเริ่มขึ้น เจ้าพร้อมหรือยัง?”
”ไม่”ปิงหยางส่ายหัวในทันที
”…”
”…” ผู้ประกาศฉิงเฟิงรวมไปถึงคนอื่นๆต่างพูดไม่ออกเมื่อได้ยินคำตอบของปิงหยาง ไม่พร้อม?
นางต่อสู้ไปแล้วรอบหนึ่งแต่ตอนนี้กลับตอบว่าไม่พร้อม?
”ต้องการเวลามากแค่ไหนน้องหญิงปิงหยาง” ผู้ประกาศกระแอ้มเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามนาง
”ข้าจะพร้อมเมื่อเขายอมให้ข้าเริ่มก่อนสัก8-10 กระบวนท่า”ปิงหยางตอบก่อนจะเผยรอยยิ้มที่สดใสออกมา
”ข้าไม่สามารถ…”ผู้ประกาศเริ่มสับสน
”ท่านเรียกข้าว่าน้องหญิงแล้วจะไม่ช่วยข้างั้นเหรอ?” ปิงหยางมองเขาด้วยสายตาที่ออดอ้อน
”ข้าเรียกน้องหญิงเพราะข้ารู้จักเจ้าและเป็นคนใกล้ชิดกับศิษย์พี่ฉือกูเหยียนไม่ได้มีความหมายอื่นแต่อย่างใด”
”งั้นก็ควรจะช่วยข้ามากกว่านี้” ”แต่ข้าไม่สามารถ…ข้าจะบังคับให้เขายินยอมได้อย่างไร?”
”ทำไมท่านบังคับไม่ได้?”
”…”
ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์หมดคำพูดเขาไม่รู้ว่าจะจัดการกับปิงหยางยังไงดี เขาควรทำยังไง?
ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์มองหามู่ฉิเฟิงอย่างช่วยไม่ได้
”เริ่มแข่งได้”มู่ฉิงเฟิงก็นิ่งงันเช่นกัน แต่เขาจะไม่ให้ปิงหยางทำตามใจ
”เอาล่ะการแข่งในรอบที่สอง ระหว่างฉิงเฟิงแห่งหุบเขาฟู่ซี่และปิงหยางจากหอคอยหลิงหยุน เริ่มแข่งได้!”
ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อมู่ฉิงเฟิงทำให้การแข่งดำเนินต่อได้
”อา…ข้ายังไม่พร้อม เจ้าทำได้ยังไง…”
”ความผิดข้าเององค์หญิง!”ปิงหยางพูดได้ครึ่งประโยค ฉิงเฟิงก็เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงและชี้ดาบมาที่ปิงหยาง
แสงสีม่วงหมุนวนส่องสว่างเมื่อแสงสีม่วงปรากฎขึ้น บรรยากาศรอบๆกลายเป็นหนาวเย็นทันที
ทุกคนต่างจดจ้องกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
”แสงสีม่วงส่องสว่างทางทิศตะวันออกราวกับแสงอาทิตย์”มู่ฉิงเฟิงประทับใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก
ในตอนนั้นเองแสงสีทองก็ส่องสว่างท่ามกลางแสงสีม่วง มันไม่ได้สวยงามเหมือนกับแสงสีม่วง แต่มีความน่าเกรงขามเปล่งออกมาอย่างชัดเจน
หอกฉีหลิน!
”หืม?ปิงหยางไม่หลบการโจมตี”
”ไม่นะองค์หญิง หลบเร็ว!”
”นั่นคือพลังของฉิงเฟิง!”
เหล่าศิษย์ต่างส่งเสียงตะโกนเมื่อเห็นการโจมตีของเขา ฉิงเฟิงเองก็ตกตะลึงเช่นกันอย่างไรก็ตามเขากลับสู่ความจริงอย่างรวดเร็ว
หอกฉีหลินหอกเพลิงที่ทรงพลังที่สุดในบรรดาสมบัติศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 10 ของอาณาจักรเซี่ย รวมเข้ากับพลังของปิงหยางในระดับเซียน การโจมตีของหอกส่งร่างของฉิงเฟิงลอยขึ้นไปในอากาศ เขาไม่มีเวลาตอบสนองแม้แต่น้อย มันเป็นพลังอันน่าสะพรึงกลัว
”อั่ก”ฉิงเฟิงกระอักเลือดออกมาคำใหญ่ พลังของหอกไหลเข้ามาในร่างของเขา ราวกับว่ามันแผดเผาอวัยวะทุกส่วนในร่างกาย
”ข้าบอกแล้วว่ายังไม่พร้อมแต่ยังเริ่มแข่งโดยไม่สนคำขอใดๆ นี่มันแกล้งกันชัดๆ” เสียงดังออกมาชัดเจน
รางสีแดงพุ่งทยานขึ้นไปบนท้องฟ้าชุดเกราะเพลิงส่องสว่างท่ามกลางแสงอาทิตย์ ราวกับนางฟ้าในกองเพลิง
”ตูม!”แสงส่องสว่างออกจากร่างของปิงหยาง อักขระปรากฎขึ้นที่หน้าผากของนาง สัญลักษณ์แห่งเซียน ”อะไร?!เจ้า…” ฉิงเฟิงร่วงลงกลางอากาศ ในขณะที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเปล่งเสียงออกมา ก่อนที่เขาจะมีโอกาสได้พูด แสงสีแดงบนท้องฟ้าก็พุ่งเข้าหาตัวเขาแล้ว
”ผัวะ”
แผลขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นบนแขนของฉิงเฟิงดาบเงินร่วงลงสู่พื้นพร้อมกับเลือดที่ไหลอาบแขน ในเวลาเดียวกัน เท้าข้างหนึ่งก็พุ่งตรงมาที่หน้าของเขา
”ตูม!”แรงเตะทำให้ร่างของเขาร่วงกระแทกพื้น สีหน้ากลายเป็นแดงก่ำ
ฉิงเฟิงพยายามจะลุกขึ้นแต่เขาเห็นแสงสีทองจ่ออยู่ที่ลำคอ
”ไหนว่าเจ้าแลกเปลี่ยน300 กระบวนท่ากับอาจารย์ของเหล่าเซียนเมื่อปีก่อนโดยไม่แพ้ ไม่ใช่หรือ?” ปิงหยางจ้องที่ฉิงเฟิง
”…”
ริมฝีปากของฉิงเฟิงสั่นราวกับอยากพูดบางอย่างแต่เขาไม่สามารถทำได้ ”ฮ่าฮ่าฮ่าไม่จำเป็นต้องพูดว่าแพ้แล้วหรอก อย่ากดดันตัวเองไปเลย”
ไม่มีใครคิดอะไรออกพวกเขาคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่ปิงหยางจะเอาชนะฉิงเฟิง ทั้งที่ฉิงเฟิงควรจะได้เปรียบไม่ใช่หรือ?
ยกเว้นว่า…มีความคิดหนึ่งปรากฏขึ้นในใจของทุกคน
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างฉับพลันกับความจริงในใจ
“ระดับเซียน!”
“ปิงหยางอยู่ในระดับเซียนแล้ว!”
“อาย16 ปีเนี่ยนะ? เป็นไปได้ยังไง?!”
ไม่มีใครเชื่อแต่มันเป็นวิธีเดียวที่ปิงหยางจะสามารถเอาชนะฉิงเฟิงได้อย่างง่ายดาย
ความเงียบปกคลุมไปทั่วลานประลองแสงอาทิตย์ตกกระทบชุดเกราะสีแดงของปิงหยาง ผมสีดำของนางพริ้วไหวไปตามสายาลม สัญลักษณ์สีแดงบนหน้าผากของปิงหยางส่องประกายเจิดจ้า “ระดับเซียนระดับเซียนจริงๆ!”
“ปิงหยางอยู่ในระดับเซียน!”
ก่อนหน้านี้ทุกคนมองปิงหยางเป็นเพียงเด็กน้อยที่น่ารักเท่านั้นแต่ตอนนี้ทุกคนแทบจะล้มไปกองกับพื้น มันยิ่งกว่า เหยียนซิวที่อายุแค่ 18 ปีเสียอีก!
“ท่านพ่อปิงหยาง…”
ราชาเซี่ยนไม่สามารถเชื่อสายตาตัวเอง เขาจึงหันไปหาหลินมู่ไป่ด้วยความสงสัย
“อืมปิงหยางอยู่ในระดับเซียน!”หลินมู่ไป่พยักหน้า
“ยินดีด้วยฝ่าบาท!”
“ยินดีด้วยฝ่าบาท!”
เสียงสรรเสริญจากแม่ทัพและเหล่าทหารของอาณาจักรเซี่ยดังขึ้นในทันทีที่ได้รู้ความจริง
“ฮ่าฮ่าพวกเจ้าลุกขึ้นได้ ตอนนี้ข้าอยู่ในระดับเซียนแล้ว พวกเจ้าแปลกใจมากล่ะสิ? น่าตื่นเต้นไหม? ฮ่าฮ่า…” ปิงหยางพูดออกมาโดยไม่มีความถ่อมตัวแม้แต่น้อย
“…”
“…”
“แกรก!”
ช่าทุกคนจะอารมณ์ดีแก้วชาในมือของโม่ฉานฉือละเอียดเป็นผุยผง รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาหายไป
“การแสดงที่ยอดเยี่ยมจริงๆท่านผู้นำหอคอยหลิงหยุน ข้าขอชื่นชม!”
……………………………………..