แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1842 เข้าใจผิด
นี่เป็นถึงเรื่องใหญ่ที่รุนแรงมาก
กานต์รู้สึกมาโดยตลอดว่ากิจจากับสิชาไปกันไม่ได้ กลับเป็นณิตาคนนี้มีความน่าจะเป็นอย่างมากที่จะกลายเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของตนเอง
ตอนนี้กิจจาไม่อยู่ ณิตาก็เป็นเพราะว่าทำการผ่าตัดให้กับไอราถึงได้หายตัวไป คิ้วของกานต์ขมวดเข้าหากันแน่น โทรศัพท์ออกไปสายหนึ่งในทันที
“ให้คนตระกูลโตเล็กทุกคนออกปฏิบัติการ จะต้องหาณิตาให้เจอ”
หลังจากพูดจบเขาก็รวบรวมบันทึกกล้องวงจรปิดด้วยความรวดเร็ว แต่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้านั้นไม่มีกล้องวงจรปิด และก็เพื่อคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของแพทย์ บริเวณโดยรอบยิ่งไม่มีมุมทแยงของกล้องวงจรปิดแม้แต่ตัวเดียว
กานต์เริ่มกลัดกลุ้มขึ้นมา
คนของตระกูลโตเล็กเคลื่อนไหวขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว
รมิดาก็ชอบณิตามากเช่นเดียวกัน ก็เริ่มช่วยหาเป็นธรรมดา แต่ณิตาก็ราวกับหายไปในอากาศยังไงอย่างงั้น ไม่มีร่องรอยแม้แต่นิดเดียว
กานต์ไม่กล้าบอกข่าวนี้กับกิจจา กลัวว่าเขาจะเป็นห่วงร้อนรนจนเกิดเรื่องอะไรขึ้น ได้แต่ให้คนของตระกูลโตเล็กไปตามหาให้เร็วขึ้น ที่จริงในใจได้เริ่มสับสนแล้ว
ตอนที่ไอราฟื้นขึ้นมาไม่ได้เห็นกานต์ มีเพียงแค่แมทธิวอยู่ แต่ว่าเธอไม่มองดูอย่างละเอียดก็ดูแมทธิวไม่ออกจริงๆ
“แกไปศัลยกรรมมา?”
ไอรามองดูแมทธิวที่ไม่แพ้หัวหมูพร้อมกับหัวเราะหยอกล้อ
แมทธิวถลึงตาใส่ไอราด้วยความกลัดกลุ้มเป็นอย่างยิ่ง เอ่ยขึ้นอย่างขาดความมั่นใจว่า “ศัลบ้านพี่สิ!ฉันถูกผู้ชายของพี่ต่อยเอาต่างหาก!พี่ดูสิ ต่อยรุนแรงมาก!หากฉันเสียโฉมไป ชาตินี้หาเมียไม่ได้ ฉันตามพวกพี่ไม่หยุดแน่!”
“สมน้ำหน้า!ให้ปากนั่นของแกพูดจาซี้ซั้วไม่มีหูรูด ไม่ได้ให้แกปากทะลุก็ถือว่าไว้หน้าแกมากพอแล้ว”
ไอราไม่เห็นใจแมทธิวแม้แต่น้อย
เธอหันมองไปรอบๆ กลับไม่เห็นเงาร่างของกานต์ อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย
“กานต์ล่ะ?”
แมทธิวชะงักเล็กน้อย จากนั้นเอ่ยว่า “บริษัทพี่กานต์เกิดเรื่องนิดหน่อย กลับไปจัดการแล้ว เขาให้ผมซื้อไอติมให้พี่ ของอย่างอื่นเขาบอกว่ารอพี่หายดีก่อนค่อยเลี้ยงพี่”
คิดถึงคำสารภาพที่กานต์พูดก่อนที่เธอจะเข้าห้องผ่าตัด ใบหน้าของไอราก็มีความอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย
“ไอติมล่ะ?”
“อ้อ ฉันไม่รู้ว่าพี่จะฟื้นขึ้นมาเมื่อไร ผมเลยกินไปแล้ว”
แมทธิวพูดอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ เกือบจะทำให้ไอราโมโหจนกระโดดขึ้นมาจากเตียง
“ฉันคิดว่ากานต์ต่อยแกเบาไปแล้ว แกควรจะโดยต่อยจนลุกไม่ขึ้นจากเตียง พูดไม่ออก ปากขยับไม่ได้ก็คงจะดี”
ไอราพูดอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แมทธิวกลับเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่หมดคำพูด “ไม่ใช่แค่ไอติมบ้าๆแท่งหนึ่งหรอ? พี่จะกินฉันไปซื้อให้พี่ใหม่ไม่ใช่ว่าจบเรื่องแล้วหรอไง?”
“เหมือนกันได้หรอ?”
ไอราเรียกได้ว่าถูกทำให้โมโหจะตายอยู่แล้ว
แมทธิวเอ่ยถามขึ้นอย่างงงงวย “ทำไมจะไม่เหมือนกัน? อย่างมากก็แค่ฉันกินรถอะไรของพี่ไปฉันก็ไปซื้อที่เหมือนกันก็เรียบร้อยแล้ว”
“แกซื้อก็คือแกซื้อ นั่นคืออันที่กานต์ซื้อให้ฉัน!ไม่มีคำอนุญาตจากฉันใครให้แกกิน? แมทธิว แกไสหัวออกไป!”
ไอรารู้สึกว่าที่แมทธิวกินไม่ใช่ไอติม แต่เป็นความรักที่กานต์มีต่อเธอ
น่ารังเกียจ!
เลว!
ทำไมเธอถึงได้มีน้องชายที่โง่ขนาดนี้กันนะ?
แมทธิวไม่เข้าใจเหตุผล แต่เพื่อไม่ให้ไอราโมโห เขาก็ยังคงออกไปอย่างเชื่อฟัง
ไอราโมโหจนบาดแผลที่ผ่าตัดเจ็บ
ความเจ็บปวดทำให้เธอฟื้นคืนสติขึ้นมาได้ชั่วคราว
กานต์แม้ว่าจะเป็นคนบ้างาน แต่เขาก็ไม่มีทางปล่อยเธอทิ้งไว้ไม่สนใจเด็ดขาด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเธอเพิ่งผ่าตัดเสร็จ กานต์รับปากเธอเอาไว้ว่าจะอยู่ด้านนอกรอเธอออกมา
นอกเสียจากเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้น เขาจำเป็นต้องไปจากที่นี่ถึงได้เป็นเช่นนี้
ไอราหาโทรศัพท์มือถือออกมาด้วยความรวดเร็ว คิดจะโทรหาณิตา แต่โทรศัพท์ของณิตาอยู่ในโหมดปิดเครื่องตลอด
ไม่มีทางเลือกเธอทำได้เพียงโทรหารมิดา
“แม่ กานต์ไปไหนแล้ว? เกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้วใช่หรือเปล่าคะ?”
รมิดารู้สึกกลัดกลุ้มที่ไอราลืมตาขึ้นมาก็ถามหากานต์ แต่กลับเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบว่า “อืม ดูเหมือนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกิจจา รีบร้อนออกไป แกก็อย่าเป็นกังวลขนาดนั้นเลย รักษาร่างกายให้ดีถึงจะเป็นเรื่องจริง กานต์ไปไหนไม่ได้ ผู้ชายที่เสื่อมสมรรถภาพคนหนึ่งก็มีแต่แกนี่แหละที่เห็นเขาเป็นของล้ำค่า”
คำพูดนี้ทำให้ไอราระเบิดในทันที
“ใครเสื่อมสมรรถภาพ? แม่ทดสอบหรือว่าเห็นด้วยตัวเองแล้ว? ทำไมแมทธิวพูดอะไรแม่ก็เชื่อหมดล่ะ? หนูว่าทำไมพวกแม่ชอบซุบซิบนินทาขนาดนั้นกันนะ? พวกเราสองคนนอนอยู่ด้วยกันยังจะต้องทำอะไรสักหน่อยให้ได้ถึงจะบอกว่าเขาไม่ได้เสื่อมสมรรถภาพใช่หรือเปล่า? คนอื่นเขาจะเป็นเพราะยังไม่ได้แต่งงานเป็นห่วงชื่อเสียงของหนูไม่ก้าวข้ามไปอีกหนึ่งขั้นไม่ได้ใช่ไหม?หนูว่าแมทธิวเรียนจากแม่จนเสียคนไปแล้ว”
พูดจบไอราก็ตัดสายไปเลย
รมิดาทั้งคนถูกทำให้ตกใจจนตะลึงงัน
เมื่อครู่นี้เธอถูกไอรายัยเด็กเหลือขอนี่ด่าเข้าแล้ว?
เธอพูดว่าอะไรนะ?
เธอทดสอบด้วยตัวเองว่ากานต์จะเสื่อมสมรรถภาพใช่มั้ย?
ยัยเด็กเหลือขอนี่ห่างไม้ห่างมือมานานแล้วใช่หรือเปล่า?
รมิดาแทบจะหายใจเข้าได้ไม่เต็มปอด อยากถือมีดไปสับเจ้าเด็กเหลือขอนี่ให้ได้
หลังจากที่ไอราวางสายลงถึงได้มีความรู้สึกกลัวในภายหลัง
คุณพระ!
เธอเมื่อครู่นี้คือปฏิกิริยาตอบสนองตามสัญชาตญาณจากจิตใต้สำนึกล้วนๆ ลืมว่าฝ่ายตรงข้ามคือมารดาผู้ยิ่งใหญ่ของเธอไปโดยสมบูรณ์แบบ
ทำยังไงดี?
คำพูดที่พูดออกไปราวกับน้ำที่สาดออกไป เธอจะจบเห่แล้วใช่หรือเปล่า?
ฮือๆๆ ก็ไม่รู้ว่ากานต์จะกลับมาเมื่อไร ใครมาปกป้องเธอได้ล่ะ?
ไอราทางนี้ทำอะไรไม่ถูก รมิดากลับออกไปหาแมทธิว ดึงหูของเขาลากเข้ามาที่ห้องทำงาน
“แม่ๆๆๆ แม่เบาหน่อย แม่นี่การทำร้ายไม่รุนแรง แต่การฉีกหน้าแกร่งมากเลยนะ พยาบาลสาวๆมากมายขนาดนั้นที่อยู่ด้านนอกดูอยู่ แม่ก็ลากผมเข้ามาแบบนี้ไม่เหมาะสมเลย”
แมทธิวรู้สึกว่าหูของตัวเองจะหลุดอยู่แล้ว
รมิดาถีบเข้าไปเลยหนึ่งที ยังไม่หายแค้น ตบหน้าเขาไปอีกหนึ่งทีในวินาทีที่แมทธิวหลบ
“แม่ ผมเป็นลูกชายแท้ๆของแม่หรือเปล่า? ลงมือทำไมโหดขนาดนี้ล่ะ?”
“ลงมือโหด? ฉันเห็นว่าตอนนี้แกยังมีชีวิตอยู่ ต่างก็เป็นเพราะฉันกับพ่อแกจุดธูปไหว้บรรพบุรุษด้วยความจริงใจต่างหาก”
ความรู้สึกที่รมิดามีต่อลูกชายที่ไม่เอาไหนคนนี้เรียกได้ว่าเกลียดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันไปหมด
“ผมทำอะไรผิดกันแน่? พี่กานต์ต่อยผม แม่ก็ตีผม พี่ใหญ่ก็ไม่ชอบผม ผมนี่มันยากจริงๆ”
“ยากกะผีสิ!”
รมิดามองดูใบหน้าที่อย่างกับหัวหมูของแมทธิว โมโหจนหอบหายใจพร้อมกับเอ่ยว่า “ใครบอกแกกันว่ากานต์เสื่อมสมรรถภาพ?”
“ผมเดาเอง”
แมทธิวเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา เกือบจะทำให้รมิดาโมโหจนลงมืออีกครั้ง
“เรื่องนี้เดามั่วตามอำเภอใจได้หรอ?”
รมิดาคำรามออกมา ทำเอาแมทธิวตกใจจนหลบไปที่ด้านข้างหลายก้าวด้วยความรวดเร็ว จากนั้นเอ่ยว่า “นี่ไม่เด่นชัดหรอกหรอ? ผู้หญิงที่สวยขนาดนั้นอย่างพี่ใหญ่ผมนอนอยู่ในอ้อมแขน เขายังถไม่รูสึกอะไร ไม่ใช่เสื่อมสมรรถภาพแล้วคืออะไร?”
“หุบปากไปเถอะแก!”
รมิดาโมโหจนเจ็บหน้าอก
เธอรู้สึกว่าตัวเองก็สมองพิการแล้วเหมือนกัน
ไม่ใช่ไม่รู้นิสัยโง่เง่าของลูกชายคนเล็กคนนี้เหมือนกับอรรณพ เพียงแต่ตนเองไปเชื่อคำพูดซี้ซั้วของเขาได้ยังไงกันล่ะ?
พอคิดถึงคำพูดที่ตัวเองพูด เรื่องที่ตัวเองทำกับกานต์ ยังมีสีหน้าถ่ายไม่ออกที่เตรียมความพร้อมแต่ไม่ออกตัวนั่นของกานต์ รมิดาก็รู้สึกว่าใบหน้าของตนเองถูกเผาอย่างรุนแรง!
เธอเป็นถึงแม่ยายของเขานะ!
เข้าใจผิดเช่นนี้จะให้เธอเผชิญหน้ากับกานต์อย่างไม่สะทกสะท้านได้ยังไงกัน?
รมิดาไม่อยากพูดให้ชัดเจนต่อหน้าด้วยตัวเอง อย่างแรกทำตัวไม่ถูก อย่างสองสถานะพิเศษ ก็เลยส่งข้อความให้กับกานต์ ความหมายหลักๆก็คือ น้าเข้าใจผิดเธอแล้ว ก่อนหน้านี้สั่งยาผิด หวังว่าเธออย่าได้ใส่ใจ
กานต์หัวเราะเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ ล้วนเป็นความผิดของแมทธิวเจ้าเด็กนั่น เขาจะโทษแม่ยายไม่ได้ เขาก็เลยตอบกลับไปหนึ่งข้อความ “ไม่เป็นไรครับ” เรื่องนี้ก็ผ่านไปเช่นนี้
ตอนนี้เรื่องสำคัญเร่งด่วนที่ต้องจัดการในทันทีก็ยังคงเป็นกิจจาทางนี้ ณิตาหายไปแล้ว เพื่อกิจจา กานต์จะต้องหาว่าที่พี่สะใภ้ใหญ่คนนี้ให้เจอ
ไม่นาน กานต์ก็ตรวจสอบเจอกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลในวันนั้น ด้านบนปรากฏภาพมีผู้ชายสองสามคนลักพาตัวณิตา ตรวจสอบครู่หนึ่ง คือคนของท่านพล
อีกทางด้านหนึ่ง ณิตาถูกลักพาตัวมาที่คฤหาสน์จริงๆ แต่อีกด้านหนึ่งก็คือเธอยินยอมด้วยตัวเอง เพราะเธออยากเจอกิจจา
กิจจาตอนนี้กำลังถูกขังอยู่ภายในคฤหาสน์รักษาชีวิตให้กับหลานชายของท่านพล
ตอนนี้ทั้งสองพบกัน กิจจาส่ายศีรษะ
“ที่นี่สู้เมืองหลวงไม่ได้ ยังไงเธอก็เป็นห่วงความสบายของตัวเองก่อนเถอะ เด็กผู้หญิงคนหนึ่งถูกคนลักพาตัวมายังนิ่งเฉยขนาดนี้ นี่เธอสมองขาดรอยหยักหรือว่านิ่งเฉยขนาดนี้ตั้งแต่กำเนิดกัน?”
ณิตาคิดไม่ถึงว่ากานต์จะพูดเช่นนี้ เอ่ยขึ้นโดยจิตใต้สำนึกว่า “ฉันไม่ใช่อะไรทั้งนั้น นี่ไม่ใช่ว่ามีคุณอยู่หรอ? คุณอยู่ฉันก็สบายใจ แม้ว่าจะเป็นถ้ำเสือถ้ำมังกรฉันก็กล้าบุกเข้าไป เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่มีทางให้ฉันได้รับบาดเจ็บใช่หรือเปล่า?”
“อืม”
จุดนี้กิจจาไม่ได้ปฏิเสธ
เมื่อครู่นี้ตอนที่เห็นท่านพลพาณิตาเข้ามา เขาคิดอยากจะฆ่าคนจริงๆ แต่ว่าได้ฟังการพึ่งพาและความเชื่อใจที่ณิตามีต่อตนเอง ส่วนลึกภายในจิตใจของกิจจาก็อดสั่นไหวไม่ได้
ณิตาไม่พอใจคำตอบของกิจจามาก เธอมองดูกิจจาอย่างรู้สึกคับแค้นใจ เอ่ยว่า “อืมอะไรของคุณ? หรือว่าคุณไม่มีอะไรอยากจะพูดกับฉันหรอ?”
“ฉันไม่ใช่เคยบอกไปแล้ว?”
ดวงตาที่สงบเยือกเย็นไม่สะทกสะท้านของกิจจา สายตาที่เลื่อนลอย ทำให้ณิตาอยากจะบ้ามากจริงๆ
ให้เขายอมรับว่าชอบตนเอง อยากจะปกป้องตนเองยากขนาดนั้นเลยหรอ?
“กิจจา คุณนี่มันคนโง่!”
ณิตาพูดจบก็หมุนตัววิ่งไปห้องน้ำด้วยความโมโห
กิจจาถูกด่าอย่างมึนงง แต่ว่าก็ยังคงลูบจมูก มุมริมฝีปากยกขึ้นเล็กน้อย
ที่จริงณิตามาก็ดีเหมือนกัน ตัวเองก็ไม่ต้องโดดเดี่ยวขนาดนั้นแล้ว เพียงแต่ต้องระมัดระวังตลอดเวลา
วันนี้เขาทำร้ายท่านพลไปแล้ว ยังไม่ตอบรับทำการผ่าตัดให้กับน้องวิน เขากลัวท่านพลจนตรอกจนทำอะไรกับเขาขึ้นมา
ท่านพลกี่คนที่จริงแล้วกิจจาต่างก็ไม่ได้ใส่ใจ เขาแค่กลัวณิตาได้รับบาดเจ็บ
นอกจากครอบครัว ณิตาก็เป็นเพียงคนเดียวที่เขาเป็นห่วงแล้ว