I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูด - ตอนที่ 261 ทางผิด
ตอนที่ 261 ทางผิด
เมื่อได้ยินคําถามของลอร์ร่า เพน่า อนิสตันชําเลืองมองไปที่เอริคที่อยู่ข้างๆ จึงได้เห็นเอริคกระพริบตาปริบๆ ทําเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนที่กล่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ไมโครโฟนแล้วพูดว่า “ฉันเองก็เคยดูตัวอย่างของหนังเรื่อง Home Alone 2 มาแล้ว ภาคสองของหนังเรื่องนี้สนกกว่าภาคแรกมากคะ สติวน้อยแสดงได้ดีมากคะ แมตทิวก็ยังนิสัยแย่มากอยู่เหมือนเดิม และยังมีนักแสดงคนอื่นๆอีกหลายท่านที่แสดงออกมาได้เข้าถึงบทบาทมากทีเดียว ดังนั้นฉันคิดว่าหนังเรื่องนี้ต้องทํารายได้ทะลุกบ็อกออฟฟิศ 200 ล้านดอลล่าห์อย่างแน่นอนคะ”
” โอโห 200 ล้านดอลล่าห์ เป็นตัวเลขที่น่าตกใจมากทีเดียวคะ หวังว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นไปตามที่คุณอินสตันพูดนะคะ “ลอร์ร่า เพน่าพูดออกมาโดยไม่ได้มีความเปรียบเทียบกับ Home Alone ที่ออกฉายเมื่อปีที่แล้วแต่อย่างใด หล่อนจึงถามต่อว่า ” คุณอนิสตัน ได้ยินมาว่าแมตทิว เพอร์รีที่แสดงเป็นมาร์วินโจรโง่ในหนังเรื่องนี้ เคยเป็นเพื่อนร่วมห้องของคุณมาก่อนใช่ไหมคะ? “
“คิดไม่ถึงเหมือนกันคะว่าจะมีเรื่องน่าขําขันเช่นนี้ “ลอร์ร่า เพน่าถามขึ้นด้วยน้ําเสียงเชิงยั่วเย้าและหยอกล้อคนอื่นเล็กน้อย ” แล้วตอนที่คุณอนิสตันได้แนะนําคุณแมตทิวให้คุณเอริครู้จัก เขาไม่หึงแย่เหรอค่ะเนี่ย? “
เมื่ออนิสตันได้ยินคําถามนี้ หล่อนก็ถลึงตาใส่หญิงสาวพร้อมกับบีบแขนของเอริคไว้แน่น “จะเป็นไปได้ยังไงกันละคะ ถ้าเอริครู้สึกอย่างนั้นก็คงจะไม่เลือกคุณแมตทิวมารับบทมาร์วินหรอกคะ “
เมื่อสิ้นสุดการสัมภาษณ์สั้นๆ ทั้งสองคนก็เดินบนพรมแดงเข้ายังโรงภาพยนตร์ทันที
เมื่อทั้งสองคนเข้ามาในโรงภาพยนตร์แล้วทุกคนต่างเข้ามาทักทายพวกเขา เอริคกระซิบข้างหูของอนิสตันว่า “เจนนี่ จริงๆแล้วฉันก็รู้สึกนะ คืนนี้เธอคงต้องชดใช้ให้ฉันหน่อยละ “
อนิสตันค่อนใส่เอริคด้วยความหมั่นใส้เล็กน้อย ” เรื่องที่คุณพูดจาไร้สาระจนทําให้ฉันโกรธอะ ก็ยังไม่เห็นคุณจะชดใช้ให้ฉันเลย”
” งั้นคืนนี้ฉันชดใช้ให้เธอสองเรื่องเลยดีไหม ? ” เอริคพูดพร้อมยิ้มออกมา แล้วยื่นมือไปโอบเอวของหญิงสาวพร้อมกับบีบเนื้อที่อยู่ภายใต้ชุดราตรีนั้นเบาๆ
หญิงสาวรับรู้ได้ว่าเหมือนที่ไฟฟ้าช็อตไปทั่วทั้งตัว หล่อนจึงค่อยๆดันตัวออกห่างจากเอริค ก่อนจะหันไปพูดกับชายหนุ่มด้วยความโกรธเคืองว่า ” คุณนี่เหมือนสัตว์เลี้ยงจริงๆ คิดแต่เรื่องพวกนี้ทั้งวัน ฉันไม่อยากสนใจคุณแล้ว “
เมื่อหญิงสาวพูดจบหล่อนก็เดินแยกตัวจากเอริคทันที อนิสตันเดินตรงเขาไปหาแมตทิว หล่อนสวมกอดเขาด้วยความกระตือรือร้นทันที
เอริคยักไหล่อย่างจนปัญญา แล้วเดินตามหญิงสาวไป ขณะที่เอริคกําลังเดินตามหญิงสาวไปนั้น จู่ๆก็มีแขกที่มาร่วมงานนี้ด้วยอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวทักทายเขาจากที่ไกลๆ ข้างกายของโดนัลด์ ทรัมป์คือหญิงสาวผมทองยาวอายุราว 30 ปี เดินจูงมือมาพร้อมกับเด็กผู้หญิงตัวน้อยคนหนึ่งซึ่งนั้นก็คือเด็กโลลิ ไอเวนก้านั้นเอง
” Hi เอริค ไม่เจอกันตั้งนานเลยนะครับ “โดนัลด์ ทรัมป์เดินเข้ามาสวมกอดเอริคเล็กน้อยก่อนจะพูดแนะนําว่า ” เอริค นี่คือภรรยาของฉัน อีวานา อีวานา นี่คือเอริค วิลเลี่ยม “
เอริคยื่นไปจับมืออีวานาอย่างมีมารยาท
ขณะเดียวกันก็มีเสียงของเด็กโลลิตัวน้อยดังขึ้นว่า “คุณเอริค คุณจําหนูได้ไหมคะ? “
” แน่นอนสิครับ เอนนี่ ” เอริคยิ้มพร้อมกับยื่นมือไปจับแก้มนุ่มๆของเด็กน้อยเบาๆ แต่เด็กโลลิน้อยกลับทําท่าต่อต้านเขา ” เฮ้ คุณเอริค ใครอนุญาตให้คุณจับแก้มของเด็กผู้หญิงได้ตามใจชอบกันละ “
เอริคนั่งยองๆลงตรงหน้าของเด็กหญิงตัวน้อย ก่อนจะถามขึ้นด้วยความสนใจว่า “แล้วทําไมถึงจับไม่ได้ละครับ? “
ไอเวนก้ายืนคิดสักพักแต่ก็หาคําตอบที่เหมาะสมมาตอบเอริคไม่ได้ เด็กหญิงจึงถลึงตาด้วยความดุร้ายใส่เอริคแล้วพูดว่า ” ไม่ได้ก็คือไม่ได้สิ”
ขณะที่เอริคกําลังหยอกล้อกับเด็กโลลิตัวน้อยอยู่นั้น อนิสตันก็เดินกลับมาพอดี เมื่อหล่อนเห็นเด็กโลลิ ไอเวนก้า ทรัมป์ตัวน้อยก็รีบทักทายด้วยความดีใจทันที “สวัสดีจ๊ะสาวน้อย หนูสวยเหมือนตุ๊กตามากๆเลยจ๊ะ ” เมื่อหล่อนพูดจบก็ไม่รอให้ไอเวนก้าตอบกลับแต่อย่างใด หล่อนยื่นมือไปบีบแก้มของเด็กหญิงตัวน้อยทันที
“เฮ้ เฮ้ ทําไมพวกคุณเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเกลียดแบบนี้ละ! “
เด็กโลลิตัวน้อยพยายามดิ้นออกจากการสัมผัสแก้มของพวกผู้ใหญ่ หลายคนที่เห็นเหตุการณ์นี้ต่างพากันหัวเราะกันเล็กน้อย เมื่ออนิสตันเห็นท่าทางแบบนั้นของเด็กหญิงแปลกหน้าคนนี้ ก็รีบปล่อยมือทันที แล้วหันไปถามแม่ของไอเวนก้าทันที “ขอโทษนะคะ ฉัน…ทําอะไรผิดไปหรือเปล่าคะ? “
” ไม่มีอะไรหรอกคะ คุณเจนนี่ ปกติเอนนี่เป็นเด็กที่เชื่อฟังมากคะ เพียงแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่ไม่รู้จักก็มีจะอาการต่อต้านแบบนี้แหละคะ “อีวานายิ้มพร้อมกับพูดอธิบาย ซีรี่ย์ซิทคอมเรื่อง Friend ต่างก็เป็นที่รู้จักกันทั่วบ้านทั่วเมือง อีวานาจึงรู้จักอนิสตันโดยไม่ต้องแนะนําตัวใดๆ
อนิสัยพยักหน้าอย่างรู้สึกเสียใจเล็กน้อย หล่อนมองไปทางเอริค ซึ่งเขาก็รีบเป็นตัวแทนแนะนําหญิงสาวให้ทุกคนรู้จักทันที หลังจากนั้นทั้งสี่คนต่างก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนานโดยไม่ได้สนใจเสียงของเด็กโลลิน้อยคนนี้อีก
“เอริค หนังเรื่อง The Others ที่เพิ่งฉายรอบปฐมทัศน์ไปเมื่อตอนต้นเดือนช่างน่ามหัศจรรย์ใจจริงๆ ได้ยินมาว่าหนังเรื่องนี้ทํารายได้ทะลุบ็อกออฟฟิศกว่า 50 ล้าน ดอลล่าห์ ซึ่งใช้ต้นทุนเพียงแค่ 5 ล้านดอล่าห์เท่านั้นเหรอ? “
“ใช่ครับ ถึงแม้ต้นทุนของการถ่ายทําหนังเรื่องนี้จะแค่ 5 ล้านดอลล่าห์ก็ตาม แต่ต้นทุนวางจําหน่ายนั้นสูงกว่าเหมือนกันครับ”
โดนัลด์ ทรัมป์รู้เรื่องการจําหน่ายหนังเรื่องนี้มาบางส่วนจึงพูดขึ้นว่า ” ถ้าเป็นอย่างนี้ บริษัท Firefly ก็ต้องใช้เงินเยอะเลยสิครับ เอริค แล้วคุณคิดว่าหนังเรื่องนี้จะสร้างรายได้ให้กับบ็อกออฟฟิศมากที่สุดเท่าไหร่ครับ? “
ถึงอย่างไรก็ตามบทวิเคราะห์ของหนังเรื่องนี้ได้ปรากฏอยู่บนหน้าหนังสือติดต่อกันหลายฉบับ เอริคเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าต้องเก็บเป็นความลับแต่อย่างใด เขาจึงตอบกลับไปว่า ” ผมประมาณตัวเลขไว้อยู่ที่ 150 ล้านดอลล่าห์ครับ ซึ่งต่างประเทศผมไม่อาจประเมินได้ครับ แต่น่าจะเน้นไปทางบ็อกออฟฟิศที่อยู่ยุโรป นอกจากนี้ผมยังมีรางวัล Sliver Lion Award ของเวนิสอยู่ก็ยิ่งทําให้คุณภาพหนังเพิ่มขึ้นอีกด้วยเพราะผมรู้สึกว่าต่างประเทศต้องใช้สิ่งเหล่านี้ค่อยข้างสูงครับ”
เมื่อได้ยินเอริคพูดแบบนี้ ในใจของโดนัลด์ ทรัมป์ก็ยิ่งตื่นเต้นเข้าไปอีก เมื่อคิดตามสิ่งที่เอริคพูด ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะใช้เงินลงทุนแค่ 5 ล้านดอลล่าห์ก็ตาม แต่บริษัท Firefly ก็ยังได้กําไรอีกประมาณ 70-80 ล้านดอลล่าห์ นี่ยังไม่นับรวมกับวิดีโอเทปที่จะออกจําหน่ายอีก แล้วยิ่งตอนนี้หนังเรื่อง Home Alone 2 ก็กําลังจะออกฉาย หนังเรื่องนี้ต้องนํามาซึ่งกําไรมหาศาลอย่างแน่นอน นี่ยังไม่ได้พูดถึงหนังเรื่องอื่นๆของบริษัท Firefly ที่กําลังจะออกฉายอีก แค่หนังสองเรื่องนี้ เอริคก็ได้รับเงินอย่างน้อย 200 ล้านดอลล่าห์แล้ว อีกอย่างพวกเขาจะได้รับเงินสด แค่โดนัลด์ ทรัมป์คิดถึงเงินสดเหล่านั้นก็แทบจะเป็นบ้าแล้ว
แน่นอนว่าเอริคทําเป็นไม่สนใจแววตาที่เปลี่ยนไปของโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ได้ เขาถอนหายใจออกมา ถึงแม้ว่าทั้งสองจะรู้จักได้เพียงไม่นานก็ตาม แต่ความรู้สึกที่มีต่อเศรษฐีอสังหาริมทรัยพย์ท่านนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรเลย เขาก็เป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตใจดีมากคนหนึ่งเลยทีเดียว ถึงจะไม่สามารถยื่นมือออกไปช่วยด้วยอารมณ์ส่วนตัวได้เอริ คเชื่อว่าโดนัลด์ ทรัมป์จะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งแน่นอน บางทีเขาอาจจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเท่าที่ตัวเองจะทําได้ แต่ไม่กล้าเสี่ยงใช้เงินลงทุนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัย์กับโดนัลด์ ทรัมป์ ที่พร้อมจะล้มละลายเมื่อไหร่ก็ได้
เพื่อไม่ให้โดนัลด์ ทรัมป์จมอยู่กับจิตนการเพ้อฝันนานนัก เอริคจึงเลือกที่จะพูดออกมาให้ชัดเจน
ในขณะนั้นก็มีเสียงประกาศจากพิธีกรให้แขกผู้มีเกียรติทุกคนเชิญเข้าไปด้านในโรงภาพยนต์
“เจนนี่ เธอเดินเข้าไปข้างในกับคุณนายทรัมป์ก่อนได้ไหม เพราะฉันจะขอคุยกับคุณ โดนัลด์อีกสักหน่อย” เอริคหันไปพูดกับอนิสตันโดยที่ไม่ได้ออกห่างจากครอบครัวทรัมป์เลยแม้แต่น้อย
ภรรยาของโดนัลด์พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนที่อีวานาจะจูงมือเด็กโลลิตัวน้อยเดินเข้าไปในโรงภาพยนตร์กับอนสตัน แต่แล้วไอเวนก้าก็ปล่อยมือออกจากแม่ของหล่อน ก่อนจะหันไปพูดกับแม่ของหล่อนอย่างจริงจังว่า ” แม่คะ พวกคุณเข้าไปกันก่อนเลยคะ หนูมีเรื่องอยากคุยกับคุณเอริคสักหน่อย”
อีวานารู้ว่าสามีของตนมีเรื่องสําคัญต้องคุยกับเอริค จึงพยายามดึงมือของลูกสาวไว้ แล้วพูดว่า “เอนนี่ อย่าดื้อสิ ไปกับแม่ พวกเราไปดูเควิลกัน “
” แต่หนูไม่ได้สนใจเด็กผู้ชายคนนั้นสักหน่อย” ไอเวนก้าพยายามสลัดมือออกจากแม่ของหล่อน พร้อมกับเกาะขาพ่อของหล่อนไว้เหมือนกับหมีโคอาล่าตัวน้อย แม่ของหล่อนพยายามดึงเท่าไหร่ก็ไม่ยอมปล่อย
เอริคจึงพูดในที่สุดว่า ” คุณทรัมป์ครับ ให้เอนนี้อยู่ที่นี่ก็ได้ครับ ผมเองก็ไม่ได้มีธุระสําคัญอะไรอยู่แล้ว “
เมื่อเป็นอย่างนั้น โดนัลด์ ทรัมป์จึงโอบลูกสาวไว้ก่อนจะหันไปพยักหน้ากับภรรยา
แขกส่วนใหญ่ในงานต่างพากันเดินเข้าไปในโรงภาพยนตร์กันแล้ว ทําให้แขกในห้องรองรับนั้นดูบางตาลง เอริคกําลังนั่งคุยอยู่กับโดนัลด์อยู่บนโซฟายาวตัวหนึ่ง โดยที่เด็กโลลิไม่ได้เอ่ยคําใดออกมา ดวงตากลมโตคู่นั้น จ้องมองไปที่เอริคและพ่อของหล่อนไปมาอยู่ตรงกลาง
เอริคสูดลมหายใจเล็กน้อยก่อนพูดออกไปว่า “คุณโดนัลด์ ผมเคยอ่านข้อมูลของบริษัทของคุณแล้ว “
โดนัลด์ ทรัมป์ยิ้มอย่างลําบากใจ ก่อนพูดว่า ” มันดูวุ่นวายมากเลยใช่ไหม? “
เอริคส่ายหน้าด้วยความจริงใจ ” ไม่ใช่แน่นอน ดูจากงานที่เติบโตอย่างรวดเร็ว คุณกําลังเร่งดําเนินการบางโครงการให้เสร็จทันปีหน้า ถึงแม้ว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตอนนี้จะค่อยข้างซบเซาก็ตาม แต่ตราบใดที่โครงการเหล่านั้นเสร็จสมบูรณ์โดยไม่พังซะก่อน ผมเชื่อว่าความสามารถของคุณจะทํากําไรได้อย่างมหาศาลอย่างแน่นอน “เอริคพูดถึงตรงนี้ เขาหยุดเพียงครู่หนึ่งก่อนจะพูดเสริมต่อว่า ” ผมไม่ได้สรรเสริญเยินยอคุณนะครับ ผมเคยดูข้อมูลคุณแล้วจริงๆ ในปี1960 ขณะที่คุณกําลังเรียนอยู่ระดับมหาวิทยาลัย โครงการอพาร์ตเมนต์ในซิน ซินนาติรัฐโอไฮโอใช้เงินไปมากกว่า 1 ล้านดอลล่าห์ภายในหนึ่งปี แล้วยังมีโรงแรม Hyatt Hotels บนถนน 42 ในเมืองแมนแฮตตันและลานน้ําแข็งเซ็นทรัลพาร์กอีกด้วย”
เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ได้ยินเอริคพูดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาจึงทําให้เขารู้สึกภูมิใจไม่น้อย สีหน้าที่บ่งบอกได้ถึงความภูมิใจของตัวเอง แต่แล้วจู่ๆเขาก็ถอนหายใจออกมาเมื่อนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น
เอริคไม่ได้รอให้โดนัลด์ ทรัมป์พูดขึ้นแต่อย่างใด เขารีบพูดต่อว่า ” แต่ว่า คุณโดนัลด์ครับ ในเมื่อคุณก็ต้องการเงินมาพัฒนาธุรกิจของตัวเองเหมือนกับที่ผมเองก็อยากมีเงินเยอะๆในการพัฒนาบริษัทหนังของตัวเอง ถึงแม้จะมีเงินลงทุนที่มากก็ตาม แต่มันก็ไม่สามารถรองรับความต้องการของโครงการอสังหาริมทรัพย์ของคุณได้เลย “
โดนัลด์ ทรัมป์รู้ว่าที่เอริคพูดนั้นเป็นความจริง เขาพยักหน้าอย่างสบายใจก่อนยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันเข้าใจแล้ว
ทั้งสองคนเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนที่เอริคจะถามออกมาว่า “คุณโดนัลด์ครับ ในเวลานี้คุณน่าจะคิดวิธีการจัดหาเงินทุนนะครับ”
“อื้อ กลุ่มธนาคารเงินกู้ของฉันก็ได้ปฏิเสธฉันแล้ว ฉันจึงทําได้แค่หาเงินทุนหมุนเวียนทางอื่น ฉันเคยติดต่อฝ่ายลงทุนไปแล้ว ถึงขนาดเคยไปญี่ปุ่นตามคําแนะนําของเพื่อนด้วย แต่น่าเสียดายที่ความต้องการของญี่ปุ่นนั้นมากเกินไป ทางนั้นเขาต้องการให้ฉันขายโครงการเหล่านี้ในราคาที่ต่ํามาก ราคาที่พวกเขาเสนอมายังไม่พอจ่ายหนี้ฉันด้วยซ้ํา ฉันจึงไม่ยอมยังไงละ ” เอริคคิดตามก่อนจะพูดว่า “คุณโดนัลด์ บางทีคุณอาจจะขยันผิดที่ไป “