The Dark King – กษัตริย์แห่งความมืด - ตอนที่ 653
The Dark King – Chapter 653 ไม่เชื่อฟัง – 1
**ใบต้นหลิง = กัญชานะครับ เผื่อใครลืม 55 **
“เขาน่าจะแข็งแกร่งจนเกินไป จนคุณเองก็คิดว่าคุณไม่สามารถควบคุมเขาได้” เทียนพูดสิ่งที่เขาคิดออกมาทันที “บางครั้งดาบที่คมเกินไปผู้ใช้ก็อาจจะรู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมมันได้ คุณเลยพยายามทําลายมันเพื่อไม่ให้มันตกไปอยู่ในมือของคนอื่น น่าเศร้าจริงๆ คุณว่าไหม?”
“แม้คุณจะยังอายุน้อยแต่ผมรู้สึกได้ว่าความคิดของคุณเกินอายุไปมาก” ริเชลยังคงยิ้มและใช้โอกาสนี้พูดชมเชยเทียน เพราะในตอนนี้การที่เขาปฏิเสธหรือไม่ยอมรับคงไม่มีประโยชน์อะไร สู้ทําเรื่องที่อาจจะมีประโยชน์บ้างจะดีกว่า
เทียนก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อยและหยิบกล่องเหล็กเล็กๆออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเขาพร้อมกับพูดว่า “นี่คือยานอนหลับ ผมอาจจะต้องออกจากที่นี่ไปสักพัก คุณสามารถใช้ยานี้ได้เพื่อหลับพักผ่อนให้เต็มที่ระหว่างที่ผมไม่อยู่ที่นี่”
ริเชลมองกล่องเหล็กในมือของเขาและยิ้มออกมาทันที “ผมจะไม่หักหลังคุณแน่นอน ตอนนี้พวกเราอยู่ในเรือลําเดียวกันแล้ว ถ้าผมหักหลังคุณมันก็คงเป็นการฆ่าตัวตาย ผมไม่สามารถกลับไปที่มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ได้อีกแล้ว หรือถ้าคุณไม่เชื่อก็ให้ใครสักคนจับตามองผมเอาไว้ก็ได้”
“ที่นี่ไม่มีใครแข็งแกร่งไม่ขอบคุณ” เทียนตอบกลับมาอย่างเฉยเมย “ที่คุณพูดมาก็ถูก ผมรู้ว่าคุณเป็นคนฉลาดและคุณไม่ควรที่จะหักหลังผมเพราะนั่นจะทําให้คุณตาย! แต่ผมก็ไปบังคับจิตใจของคุณไม่ได้แล้วแต่ว่า คุณจะเลือกทางที่ฉลาดหรือโง?”
ริเชลฝืนยิ้มออกมา “ผมทราบแล้วครับ งั้นผมกินเลยนะครับ” รับกล่องเหล็กมาและเปิดออกดู เขาเทยาเม็ดที่อยู่ข้างในออกมา 2 เม็ด ยาเม็ดนี้มีกลิ่นที่แปลกประหลาด
“กินเข้าไปทั้งหมดก็ไม่เป็นไรหรอก” เทียนพูดต่อไปว่า “แม้ว่ายาที่นักปรุงยาระดับสูงสร้างขึ้นมานั้นจะสามารถทําให้นักล่าระดับสูงสลบไปเป็นเวลานานได้ แต่ร่างกายของคุณนั้นแข็งแกร่งกว่านั้น กินไปทั้งหมดก็ไม่เป็นอะไรหรอก”
สีหน้าของริเชลเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นสายตาที่มองมาของเทียน เขารู้ว่ามันไม่มีประโยชน์อีกต่อไป เขาเทยาเม็ดเข้าไปในปากของตนเองเคี้ยวและกลืนเข้าไปทันที เขาซ่อนยาบางส่วนเอาไว้ตามกระฟุ้งแก้มและซอกฟันเพื่อไม่ให้ตนเองหลับไปทันที
ไม่นานความง่วงก็เริ่มเข้ามาในจิตใจของเขาริเชลพยายามฝืนตัวเองให้ได้มากที่สุด เขาเดินไปที่โซฟาและจากนั้นก็ล้มลงไปนอนที่โซฟาและมีเสียงกรนออกมาทันที
“ดูเหมือนยาจะทํางานเร็วมากนะครับ” นิโคลัสที่อยู่ข้างๆพูดขึ้นมา
เทียนมองไปที่เท้าของริเชลและพูดออกมาอย่างเฉยเมยว่า “ไปเอาของมาจากห้องทดลองของฉันมา”
“ตอนนี้เลยหรอครับ?” นิโคลัสพูดออกมาเบาๆและมองหน้าเทียน จากนั้นก็หันไปมองคนที่นอนอยู่บนโซฟา แม้ว่าเขาจะหลับไปอย่างรวดเร็วแต่ท่านอนของเขาก็ถือว่าแปลกประหลาดมาก ระยะฝ่าเท้าของเขากับโซฟานั้นอยู่ใกล้กันมาก ถ้าหากว่าเป็นคนที่สลบไปจริงๆจะมีเวลาจัดท่านอนให้ตัวเองด้วยหรอ?
เมื่อคิดแบบนี้เขาก็จ้องมองริเชลที่นอนหลับอยู่บนโซฟา สีหน้าของอีกฝ่ายดูมีความผิดปกติเขาไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้เห็นคนอย่างพระสันตะปาปามาทําอะไรแบบนี้
“มัวทําอะไรอยู่?” เทียนขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
นิโคลัสรีบตอบกลับไปว่า “ครับ” เขารีบวิ่งไปที่ห้องทดลองใต้ดินทันทีและกลับมาพร้อมกับเข็มฉีดยาในมือ
เทียนหยิบเข็มฉีดยามา 1 อันซึ่งภายในนั้นมีของเหลวสีเขียวอ่อนที่สกัดมาจากใบต้นหลิงอยู่ ของเหลวชนิดนี้แตกต่างจากหญ้าแห้งที่มีชื่อเรียกว่า “บุหรี่” อย่างสิ้นเชิง อย่างแรกคือมันออกฤทธิ์ได้ไวกว่ามากเพราะสารเสพติดเข้าสู่เลือดในร่างกายโดยตรง เว้นแต่ว่าผู้ที่ได้รับจะสามารถควบคุมเลือดภายในร่างกายของตนเองได้
บุหรี่นั้นทํามาจากใบหลิงที่อบแห้งและร่างกายต้องสูดควันเข้าไปเป็นจํานวนมากถึงจะทําให้สารเสพติดเข้าไปในกระแสเลือดได้ ออกฤทธิ์ แต่มีข้อดีก็คือมันสามารถผลิตได้อย่างรวดเร็วและง่าย
สําหรับผู้ที่มีอาการเสพติดแล้วบุหรี่ถือว่าตอบโจทย์มากกว่า เพราะไม่ได้ต้องการให้ออกฤทธิ์รุนแรงและรวดเร็ว
เทียนยกแขนของริเชลขึ้นมาและบีบข้อมือของเขาแน่น เมื่อเห็นเส้นเลือดปรากฏขึ้นมาที่ข้อแขนเขาก็ปักเข็มฉีดยาเข้าไปทันที จากนั้นก็ฉีดของเหลวในเข็มฉีดยาเข้าไปในเส้นเลือด “น่าจะได้แล้วไปเตรียมตัวให้พรอม”
เมื่อริเชลได้ยินเทียนพูดว่า “น่าจะได้แล้ว” เขาก็ตกตะลึงขึ้นมาทันที ในตอนนี้เขาแอบมองสิ่งที่เทียนฉีดให้ตนเอง เขาไม่คิดว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะลงมือรวดเร็วแบบนี้!
ไม่นานหลังจากนั้นร่างกายของเขาก็รู้สึกอึดอัดและเจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้มันมากยิ่งกว่าครั้งที่แล้วความเจ็บปวดกระจายไปทั่วร่างกายของเขา มันเหมือนกับว่ามีแมลงจํานวนนับไม่ถ้วนกําลังกัดและเดินไปมาอยู่ทั่วร่างกายของเขา
เขาพยายามที่จะอดทนแต่ร่างกายของเขาก็สั่นจนควบคุมไม่ได้ เขารู้ดีว่าคงปิดบังไม่ได้อีกต่อไปจึงรีบลุกขึ้นมานั่งและใช้มือเกาไปที่แขนและลําคอของตนเอง เขาคุกเข่าต่อหน้าเทียนและพูดว่า “ผมผิดไปแล้ว ผมขอร้องล่ะมอบยาแก้พิษให้ผมเถอะ ผมรู้ดีว่าผมผิดไปแล้ว”
“คุณนี่ไม่ฉลาดเอาซะเลย” เทียนสายศีรษะเบาๆ
เมื่อริเชลเห็นว่าเทียนเพียงแค่ยิ้มและไม่พูดอะไรอีก เขาก็รู้สึกคันทั่วร่างกายราวกับอยากจะลอกผิวหนังของตนเองออกมา ดวงตาของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงขณะที่เขากอดขาเทียนเอาไว้และอ้อนวอน “ผมขอร้องล่ะ ผมกําลังจะตายแล้ว ได้โปรดเถอะ!”
“ถ้าคุณกล้าคุกเข่ากราบผมและยอมสวามิภักดิ์กับผมด้วยความจริงใจ ผมอาจจะลองคิดเรื่องนี้อีกที” เทียนพูดอย่างเฉยเมย
เมื่อนิโคลัสได้ยินที่เทียนพูดดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้นทันที พระสันตะปาปายังต้องกราบ? !
ริเชลหันไปมองหน้าเทียนด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากจะเชื่อ ร่างกายของเขาเริ่มรู้สึกหนาวขึ้นมาแต่ในใจของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ เขาปล่อยขาของเทียนและกัดฟันก้มศีรษะลงแต่ยังไม่ยอมทําตาม
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า
ริเชลรู้สึกว่าอาการคันบนร่างกายของตนเองนั้นรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกที่อัปยศอดสูและความโกรธ ในใจของเขาก่อนหน้านี้เริ่มเบาบางลงไปช้าๆและในที่สุดเขาก็เริ่มรู้สึกว่าทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาถูเล็บของตนเองไปบนผิวหนังอย่างรุนแรงมันไม่ทําให้เขารู้สึกเจ็บเลยกลับกันมันทําให้เขารู้สึกสบายมากยิ่งขึ้น เขากัดฟันและเกาผิวหนังของตนเองอย่างรุนแรง
ไม่นานเขาก็รู้สึกว่าเล็บของตนเองเริ่มเหนียวเหนอะหนะจึงก้มลงไปมองด้วยความแปลกใจ แต่เมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็ต้องตกตะลึงแขนของเขาเต็มไปด้วยเลือดมากมาย มีเศษเนื้อที่หลุดออกมา แต่เขากลับไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย
“ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเราต้องตายแน่นอน” เขาพยายามบังคับจิตใจของตนเองให้หยุดเก่าแต่ความคันก็เพิ่มขึ้นมาอย่างรุนแรง เขาได้แต่กอดแขนของตนเองเอาไว้ไม่รู้ว่าจะทําอะไรต่อไปดี
“ผมจะให้เวลาคุณตัดสินใจอีก 3 นาที” เทียนพูดขึ้นมาทันที
ริเชลนอนอยู่บนพรมสีแดงข้างๆโซฟา เขาหันมามองเทียนที่ยืนอยู่ไม่ไกลและถือบุหรี่ที่มวนด้วยกระดาษสีขาวราคาแพงเอาไว้ ปลายด้านหนึ่งของบุหรี่มีประกายไฟที่ถูกเผาไหม้ มีควันลอยขึ้นมาเล็กน้อย
บุหรี่ที่เทียนสูบไม่ได้ทํามาจากใบต้นหลิงแต่มันเป็นเหมือนกับบุหรี่ในยุคก่อนของเขา มีอันตรายน้อยกว่า อาการเสพติดที่ไม่ได้รุนแรง และเลิกเสพได้ง่ายกว่า
เมื่อเขาเห็นเทียนสูบบุหรี่ ริเชลก็รู้สึกได้ว่ามีแมลงจํานวนนับไม่ถ้วนกําลังถ่ายอยู่ที่ลําคอของตนเองและเขารู้สึกคันจนแทบทนไม่ได้ เขายกมือขึ้นไปเกาที่ลําคอของตนเองแต่เมื่อนึกถึงแขนที่เต็มไปด้วยเลือดก่อนหน้านี้ เขาก็รีบหยุดมือทันที