คุณทนาย จดทะเบียนสมรสกัน - ตอนที่395 ฉากที่น่าประหลาดใจ
ตอนที่395 ฉากที่น่าประหลาดใจ
ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น เตชิตขับรถไปถึงหน้าร้านอาหารฝรั่งเศสร้านหนึ่ง เมื่อตรัณเห็นเบนซ์G63 กำลังขับมา จึงรีบรุดเข้าไป “ประธานเตชิต จัดการตกแต่งสถานที่เอาไว้หมดแล้วครับ คุณลองดูถ้าหากว่าตรงไหนไม่เหมาะสม จะปรับเปลี่ยนให้ครับ”
ชายคนนั้นเดินอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เข้าประตูไปก็เห็นโคมไฟระย้าคริสตัลสว่างอยู่เหนือศีรษะ ใต้ฝ่าเท้าเป็นพื้นหินอ่อนสีขาว พื้นที่บริเวณห้องอาหารและบาร์ชั้นหนึ่งตกแต่งด้วยลูกโป่งสีแดงและขาว นอกจากนี้ยังมีริบบิ้น บันไดที่ทอดไปยังชั้นสองนั้นปกคลุมไปด้วยกลีบกุหลาบสีขาว กลิ่นของดอกไม้สดนั้นกลบกลิ่นอาหารในร้านอาหารได้อย่างสิ้นเชิง ได้ความสดชื่นเป็นอย่างมาก
เตชิตหันไปมองรอบๆ หมุนตัวอยู่สองสามรอบ มองทางนั้นมองทางนี้ หลังจากนั้นไม่กี่นาทีเขาก็ชี้ไปที่รูปภาพตรงบันได เขาขมวดคิ้ว “สิ่งนี้วางไว้ตรงนี้ทำไม จะให้นัชชามองเห็นแค่ครึ่งเดียวได้หรอ เอาออก เปลี่ยนเป็นอย่างอื่น”
ตรัณปาดเหงื่อ ตรวจสอบภาพที่ผนังอีกครั้ง มันค่อนข้างจะ บ้านนอก…
เขารีบจัดแจงให้คนรอบตัวมาย้ายมันออกไป ชายคนนั้นถามเขาว่าให้เอาไปไว้ที่ไหน ตรัณชำเลืองตามอง “ยกขึ้นมา รูปคุณนัชชาจะเอาไปวางมั่วซั่วได้ยังไง!”
เตชิตพอใจกับการให้ย้ายขึ้นไปที่ชั้นสอง ชั้นสองของร้านประกอบด้วยห้องส่วนตัวและพื้นที่เปิดโล่ง โถงทางเดินปูพรมนิ่มสีเทาอ่อนดูสะอาดตา เป็นสีที่สง่างามและน่าดึงดูด
มีหลอดไฟกะพริบที่แขวนอยู่ตลอดสองข้างของทางเดิน ด้วยแสงอันอบอุ่นมองแล้วเหมือนหิ่งห้อย สามารถมองเห็นรูปถ่ายได้ในทุกย่างก้าว
เตชิตยกมือขึ้น หยิบรูปหนึ่งขึ้นมาดู ผู้หญิงในรูปยิ้มอย่างสดใส บางใบเป็นภาพของเขาเอง บางภาพก็เป็นภาพที่เขาแอบถ่าย ส่วนมากจะเป็นภาพเมื่อห้าปีที่แล้ว แต่ว่าโชคดีที่ห้าปีนี้เธอไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก จึงไม่ได้รู้สึกถึงความแตกต่างมากนัก
ที่ตรงสุดทางเดินมันเป็นประตูเปิดออกสู่ที่โล่งด้านนอก พรหมสีเทาอ่อนปูไปสิ้นสุดที่ประตู เตชิตเดินออกไป เก้าอี้ทั้งหมดถูกเก็บออกไป
มีโต๊ะยาวอยู่ข้างๆ และเก้าอี้ทอด้วยเถาองุ่นเข้มสองตัว บนเก้าอี้มีหมอนอิงสีขาว ผูกบอลลูนด้านหลังเก้าอี้ด้วยถ้าลูกไม้ บนโต๊ะมีชุดอาหารสีทองอ่อนและชุดจานชามพอร์ซเลนสีขาวที่มีลวดลายสีทอง ตรงกลางของจานคือกุหลาบและน้ำค้างสีแชมเปญ
ตรัณตามติดอยู่ที่เบื้องหลังเตชิต ถามอย่างประหม่า “ประธานเตชิต รูปแบบของชั้นนี้ใช้ได้ไหมครับ”
ถึงแม้ว่าเตชิตจะเพิ่งมอบหมายงานให้เขาเมื่อวานนี้ เขาใช้เวลามากกว่าครึ่งวันเพื่อจะตกแต่งทั้งหมดนี้ ถึงแม้ว่าจะมีทีมงานมืออาชีพคอยช่วยเหลือ แต่ว่าเมื่อคิดถึงว่ามันคือสถานที่ที่เตชิตจะขอนัชชา เขาจึงไม่สามารถสงบใจได้
ควรใช้ประโยคนั้นจริงๆ ว่าความสุขอันยิ่งใหญ่ของเตชิตอยู่ในมือของเขา
ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นและมองไปรอบๆ น่าจะบอกว่าสวยล่ะ ดูดี แต่ว่าขาดอะไรไปสักอย่าง ริมฝีปากอันเรียวบางมือข้างหนึ่งคลำไปที่คาง เอามือข้างหนึ่งใส่กระเป๋า พิจารณาเค้าโครงของฉากอย่างรอบคอบ “ตรงนี้โล่งไปนิดหนึ่ง”
โล่งรึ
ปรัณมองไปยังทิศทางที่นิ้วเขาชี้ คือกำแพง ก่อนหน้านี้มันเป็นสถานที่ที่มีนักไวโอลินของร้านเล่นไวโอลินอยู่ ตอนนี้คนถูกพาตัวออกไปหมดแล้ว จะมีสิ่งต่างๆน้อยลงอย่างแน่นอน
“ประธานเตชิต ก่อนหน้านี้ตรงนี้จะเป็นที่ที่นักดนตรีแสดงครับ ไม่สามารถเปลี่ยนหรือทุบกำแพงได้ ดังนั้นเลยไม่ได้ทำอะไร”
ไม่สามารถเปลี่ยนได้
ตรัณทวนอีกครั้ง “ชั้นล่างมี”
“เอาขึ้นมา กำแพงนี้ใช้เป็นผ้าม่าน พอถึงเวลาก็เลื่อนภาพผมกับนัชชาขึ้นมา”
ตรัณฟังแล้วคิดว่าไม่เลว จึงบอกให้ทีมงานจัดเตรียมในทิศทางนี้ “ประธานเตชิต คุณเห็นสิ่งอื่นที่ต้องการเปลี่ยนแปลงอีกหรือไม่ครับ”
เตชิตรู้สึกประหม่าอย่าอยู่ลึกๆ ความจริงไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก แต่วันนี้กลับรู้สึกอย่างน่าประหลาดใจ “คุณว่าลูกโป่งกับดอกไม้เยอะขนาดนี้จะดูเชยไปไหม”
ผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่อายุสามสิบเจ็ดปีแล้ว เวลาไปทานข้าวไม่เคยสนใจถึงความโรแมนติก ส่วนมากจะไปตามสโมสร โรงแรม หรือว่าสถานที่ทางธุรกิจ จะเข้าจะออกประตูล้วนแต่มีคนนำไป ยังให้ความสนใจกับสภาพแวดล้อมเล็กน้อย สิ่งเดียวที่จำได้คือพรหมคุณภาพสูงที่ตกแต่งอย่างงดงาม กลีบกุหลาบและลูกโป่งขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้า คนชราค่อนข้างรู้สึกรับไม่ได้
เมื่อถึงเวลายังไม่อยากจะให้นัชชาที่เหมือนแปดขวบของเขาขำเอาได้
ตรัณฟังแล้วส่ายหัว “ประธานเตชิต สิ่งนี้ถึงแม้จะดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มีผู้หญิงคนไหนบ้างไม่ชอบดอกกุหลาบและความโรแมนติกกันครับ คุณอาจจะคิดว่าสีนี้เป็นผู้หญิงมากเกินไป แต่เมื่อคุณนัชชาเห็นจะต้องชอบอย่างแน่นอน ยิ่งเป็นเช่นนี้จะยิ่งทำให้คนประทับใจได้ง่ายขึ้นครับ”
เขาเห็นสถานที่ด้วยตาตัวเอง เห็นจริงว่าเขาไม่ได้คุยโวไปซะทั้งหมด มันดีจริงๆ อย่างน้อยก็ดีกว่าภาพที่เตชิตส่งให้เขาดูเป็นการอ้างอิงในตอนแรก
เตชิตฟังและเห็นว่ามีความจริงอยู่บ้างจึงพยักหน้า เขายกข้อมือขึ้นและมองที่นาฬิกา บ่ายสามแล้ว เขาวางแผนว่าจะพานัชชามาตอนประมาณหนึ่งทุ่ม ยังมีเวลาอีกสามชั่วโมงกว่า
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ชายหนุ่มก็เริ่มวิตกกังวล กำชับกับตรัณอีกครั้ง “หล่อนจะชอบใช่ไหม”
“ประธานเตชิตวางใจเถอะครับมันใช้ได้แล้ว นี่ไม่ใช่ผลลัพธ์สุดท้าย หลังจากนี้จะจัดการให้ได้ตามที่คุณพอใจอย่างแน่นอน” ตรัณมองไปที่ชายหนุ่มที่เดินก้าวเท้าไปมา เขารู้สึกประหลาดใจปนความอบอุ่นอยู่เล็กน้อย เตชิตที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก เป็นไปด้วยความเป็นมนุษย์ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
เตชิตไม่มีประสบการณ์เช่นนี้มาก่อน เขาคิดว่าทุกรายละเอียดถูกจัดการอย่างสมบูรณ์แบบควรที่จะราบรื่น
เขาขอให้ตรัณตรวจสอบที่ชั้นล่างอีกครั้ง ส่วนตัวเขาเองนั้นผลักประตูห้องส่วนตัวชั้นบนแล้วเข้าไปข้างใน
เขาเอาโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า ดูโน้ตที่เขียนเอาไว้ล่วงหน้า คำรักในบรรทัดข้างต้นสะท้อนออกมาในแววตา ถึงแม้จะยังไม่ได้ยืนอยู่ต่อหน้าเธอจริงๆแต่ก็เริ่มออกอาการไม่เป็นธรรมชาติแล้ว
เขาพูดต่อหน้าคนเป็นพันๆคนเขาไม่เคยมีความกังวลใดๆ ไม่รู้สึกประหม่า แม้แต่รู้สึกว่าตัวเขาเองมีจิตใจที่ยิ่งใหญ่ ไม่ค่อยกระวนกระวายใจ แต่ในเวลานี้ที่ดูต้นฉบับในมือที่มีแค่ไม่กี่ร้อยคำ หลังฝ่ามือของเขาก็เต็มไปด้วยเหงื่อเย็นยะเยือก
เขาพลิกมือดูสองสามครั้ง ทนไม่ได้หลังจากนั้นก็เปิดกระเป๋าและเห็นกระดาษทิชชู่อยู่ข้างใน เขายืนอยู่หน้ากระจกอ่างล้างมือ มองดูตัวเองข้างในกระจก มองทางซ้าย มองทางขวา มองย้อนกลับไปอีกครั้ง เป็นครั้งแรกที่เขาสงสัยในคุณค่าของตัวเอง
เขาเป็นเช่นนี้ โอเคจริงๆใช่ไหม