Late Night Bookstore ร้านหนังสือยามดึก - ตอนที่ 199
199 – ถ้าเกิดอะไรขึ้นคุณต้องแบกผมหนีให้เร็วที่สุด
โจวเจ๋อนอนอยู่ในห้อง ชายชราเจ้าของบ้านบอกว่าจะไปซื้อยาจีนให้โจวเจ๋อแล้วออกไป
หมอหลินนั่งอยู่ข้างโจวเจ๋อ และเธอไม่อยากเชื่อเลยว่าจะได้พบกับผู้คนที่อบอุ่นบนท้องถนน และเขายังเอื้อเฟื้อพาทั้งสองกลับมาพักผ่อนที่บ้านด้วย
“โลกนี้ยังมีคนดีอยู่อีกมาก” หมอหลินถอนหายใจ
โจวเจ๋อกําลังดูกรอบรูปที่แขวนอยู่บนผนังข้างเตียง มีเหรียญและและใบประกาศเกียรติยศมากมายรวมถึงรูปถ่ายบางส่วน ดูท่าแล้วชายชราคนนี้คงจะเป็นทหารมาก่อน
“คุณหิวไหม?” หมอหลินถาม
“ผมยังไม่หิว” โจวเจ๋อส่ายหัว
“สาวน้อย คุณทําอาหารได้ไหม”
ชายชราเข้ามาพร้อมกับขี้ผึ้งในมือ
“ได้ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไปทําอาหาร ฉันจะทายาให้เขา ขี้ผึ้งพวกนี้ค่อนข้างมีสรรพคุณที่ดี”
หมอหลินมองดูโจวเจ๋ออีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าเธอไม่แน่ใจว่าโจวเจ๋อจะอยู่ที่นี่คนเดียวได้
โจวเจ๋อพยักหน้าและโบกมือให้เธอสบายใจ
ชายชรานั่งลงข้างเตียงของโจวเจ๋อเขาเอื้อมมือออกไปตบผ้าปูที่นอนแล้วพูดว่า
“ไม่ต้องอาย”
โจวเจ๋อส่ายหัว
“งั้นก็ถอดเสื้อผ้าออก”
ชายชราเอื้อมมือออกไปช่วยโจวเจ๋อถอดเสื้อคลุมเมื่อมองไปที่อาการบาดเจ็บของโจวเจ๋อเขาก็อุทานออกมา
“ดูเหมือนว่าคุณเพิ่งผ่านสนามรบมาเลยแม้แต่ตอนที่ฉันไปรบที่เกาหลีกลับมาก็ยังไม่มีบาดแผลมากถึงขนาดนี้”
“โดนมาหนักจริงๆครับ” โจวเจ๋อถอนหายใจ
“ถึงจะดูอ่อนแอแต่ก็มีรากฐานที่ดี ออกกําลังกายเป็นประจําหรือเปล่า”
“ใช่ครับ” โจวเจ๋อพูดอย่างมีมารยาท
“รู้ไหมว่าฉันพาเธอมาทําไม” ชายชราถาม
โจวเจ๋อส่ายหัว
“ฉันดีใจที่ได้พบคนอย่างเธอ”
“นั่นเป็นเหตุผลที่ดี”
“พ่อหนุ่ม เด็กสาวคนนั้นเป็นคนดีเธอควรจะมีความกล้ามากกว่านี้”
พูดจบชายชราที่ทายาเสร็จแล้วก็เดินออกจากห้อง
หมอหลินทําอาหารเย็นเสร็จแล้วจึงยกเข้ามา แต่โจวเจ๋อไม่ค่อยทานอะไรมากนัก
หลังอาหารเย็น ชายชราเชิญโจวเจ๋อมาเล่นหมากรุกด้วยกันในขณะที่หมอหลินเดินดูของเก่าทั่วบ้าน
โจวเจ๋อนอนอยู่บนเตียงโดยหันหน้าไปทางกระดานหมากรุก ในขณะที่ชายชรานั่งอยู่อีกฟากหนึ่ง
ทักษะหมากรุกของโจวเจ๋อนั้นไม่ดี แม้ว่าชายชราจะต่อให้ค่อนข้างมากแต่ต้องยอมรับว่าทักษะของเขาไม่ไหวกับเรื่องนี้จริงๆ
ในช่วงดึกโจวเจ๋อโทรหาไปยิ่งเพราะคนที่จะมารับเขายังมาไม่ถึงเลย
ไปวิ่งบอกว่าเหล่าเต่ไม่มีใบขับขี่แล้วดันเผอิญไปชนกับด่านตํารวจจึงถูกจับตัวไว้
ในขณะที่ลิงน้อยซ่อนตัวอยู่แถวๆนั้นเพราะถ้าตํารวจจับได้ว่าเหล่าเต่มีสัตว์สงวนในครอบครองเขาจะมีความผิดมาก
โจวเจ๋อคาดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้ เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเหล่าเต่ไม่มีใบขับขี่เพราะเหล่าเด็ทํา หน้าที่ขับรถให้เขาอยู่ตลอด
“เกิดอะไรขึ้น?” ชายชรารอให้โจวเจ๋อวางสายแล้วถาม
“มีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างทางทําให้เพื่อนที่จะมารับผมจะมาในพรุ่งนี้”
“ถ้าอย่างนั้นก็พักที่นี่เถอะ ฉันยินดีที่เธอจะพักที่นี่”
“…………” โจวเจ๋อ
หลังจากเล่นหมากรุกแล้ว ชายชราก็หาวราวกับว่าเขากําลังจะหลับ เขาโบกมือให้โจวเจ๋อ รวบรวมกระดานหมากรุกและบอกว่าเขาจะกลับไปที่ห้องเพื่อนอน
เมื่อชายชราออกไปหมอหลินก็เข้ามาแต่ใบหน้าของเธอแค่เครียดเล็กน้อย
“เกิดอะไรขึ้น?” โจวเจ๋อถาม
“อาเจ๋อ ฉันว่าผู้เฒ่าคนนี้ค่อนข้างแปลกอยู่นะ”
“แปลกอะไร? คุณไม่ได้บอกว่าเขาดีเหรอ?” โจวเจ๋อถาม
“ไม่รู้ทําไมตอนที่ฉันอยู่ที่บ้านหลังนี้ฉันถึงรู้สึกอึดอัดแปลกๆ”
“ไม่เป็นไร ผมอยู่นี่แล้ว” โจวเจ๋อปลอบโยน
หมอหลินพยักหน้า โล่งใจเล็กน้อย
“ผมอยู่ที่นี่แล้ว จําไว้ว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นคุณต้องรีบแบกผมหนีให้เร็วที่สุด อย่าทิ้งผมไว้ที่นี่คนเดียว”
” หมอหลิน
“เดี๋ยวฉันจะไปเอาน้ํามาเช็ดตัวให้”
หมอหลินลุกขึ้นและออกไป เมื่อเธอเดินกลับมาห้องที่ติดกันกับห้องของโจวเจ๋อซึ่งเป็นห้องของชายชรากําลังเปิดไฟอยู่
เมื่อเธอเข้าไปใกล้ เธอได้ยินเสียงดื่มเหล้าและเสียงตะโกนของใครบางคนดังออกมาจากห้องชายชรา
“หลิ่น้อย จําครอบครัวของตัวเองได้หรือเปล่า”
“แน่นอนว่าจําได้อยู่แล้วก็พวกเขาเป็นครอบครัวของฉันนี่” อีกเสียงตอบกลับมาจากนั้นเขาก็พูดต่อ
“ฉันรู้ว่านายจะพูดอะไร ใช่เด็กหญิงคนนั้นหน้าตาเหมือนกับลูกสาวคนโตของฉัน” เสียงของคนที่ชื่อว่าหลี่น้อยค่อนข้างเคร่งขรึม
“ผู้ชายคนนั้นน่าสนใจมากกว่า” อีกเสียงดังออกมา
“หมายถึงอะไร?” มีเสียงสอบถามด้วยความสงสัย
“เขาเป็นผู้พิทักษ์เขตแท้ๆแต่ไม่เห็นว่าจะกลัวพวกเราเลย”
หมอหลินรีบเดินเข้าไปในห้องของโจวเจ๋อ คราวนี้เธอมั่นใจแล้วว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติกับบ้านหลังนี้
ก่อนหน้านี้รวมกับพวกเขาแล้วมีคนเพียงสามคนเท่านั้นที่อยู่บ้านหลังนี้ แล้วตอนกลางคืนจะมีคนมากมายมาดื่มเหล้าได้ยังไง?
ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่พวกเขาพูดยังแปลกๆอีกด้วย
“อาเจอบ้านนี้มีอะไรแปลกๆพวกเราหนีกันเถอะ”
โจวเจ๋อจับมือของหมอหลินแล้วพูดว่า
“ไม่มีอะไร พวกเขาไม่เป็นอันตรายต่อเรา”
เมื่อได้ยินคําพูดของโจวเจ๋อ หมอหลินก็รู้ทันทีว่าคนที่อยู่ในห้องถัดไปต้องเป็นสิ่งเดียวกันกับโจวเจ๋ออย่างแน่นอน
แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอย่างน้อยเธอก็อยู่ร่วมกับโจวเจ๋อมานานพอสมควรแล้วจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เธอจะรู้สึกชินกับเรื่องนี้
หมอหลินหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดตัวของโจวเจ๋อ โจวเจ๋อรู้สึกสดชื่นไม่น้อย แต่ในแง่ของเทคนิคและความอ่อนโยนนั้นหมอหลินยังเทียบไม่ได้กับไปยิ่ง
หลังจากเช็ดตัวแล้วหมอหลินก็กัดริมฝีปากของตัวเองแล้วพูดว่า
“ฉันรู้ว่าฉันฟังไม่ผิด แต่ถ้าคุณบอกว่าที่นี่ปลอดภัยถ้างั้นฉันก็จะเชื่อคุณ”
โจวเจอพยักหน้า
หมอหลินไม่ได้พูดอะไรอีก เธอถอดเสื้อคลุมด้านนอกของตัวเองออกแล้วนอนบนเตียงเดียวกันกับเขา
โจวเจ๋อมองดูเธอจากด้านหลัง แม้ว่าช่วงนี้เธอจะรูปร่างผอมไปมากแต่ก็สามารถกระตุ้นความเป็นชายของเขาได้ดีโจวเจ๋อนอนสํารวจร่างกายของหญิงสาวไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงช่วงดึก
อย่างไรการทําแบบนี้ค่อนข้างน่าเบื่อเหมือนกัน เขารู้สึกเหนื่อยมากเพราะไม่ได้นอนมาหลายวันแล้ว เขารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยที่เหล่าเต่ไม่สามารถพาลิงน้อยมาที่นี่
จริงอยู่ที่ขี้ผึ้งของชายชราค่อนข้างมีประสิทธิภาพและมันทําให้แผลของเขาเย็นลงแล้ว แต่เมื่อเทียบกับโคลนของลิงน้อยมันห่างไกลยิ่งกว่าสวรรค์และปฐพี
เสียงลมหายใจของหมอหลินค่อยๆคงที่ ในขณะเดียวกันเสียงพูดคุยจากห้องอีกด้านหนึ่งก็เริ่มดังขึ้น แม้แต่ชายชราคนนั้นก็ยังร้องเพลงออกมา
โจวเจ๋อขยับตัวไปใกล้หมอหลินแล้วมองเห็นว่าเธอยังนอนไม่หลับ มันเป็นเรื่องยากที่จะนอนหลับในสภาพแวดล้อมแบบนี้
โจวเจ๋อจึงใช้มือของเขาเคาะไปที่ผนังห้องแล้วตะโกนว่า
“นี่ก็ดึกดื่นแล้วทําไมยังไม่นอนพวกคุณกําลังรบกวนการนอนของคนอื่นรู้หรือเปล่า”
หลังจากที่โจวเจ๋อตะโกนพวกเขาก็หยุดทันทีและไม่มีเสียงใดๆดังออกมาอีก