ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 951 ความลับในเงามืด
ตอนที่ 951 ความลับในเงามืด
ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำเย่เชียนก็รู้สึกว่าฮาเซงาวะเซตะเป็นคนยอดฝีมือและปรมาจารย์ แน่นอนว่าไม่ใช่ในแง่ของศิลปะการต่อสู้แต่ในแง่ของการวางแผนและยุทธศาสตร์ต่างๆ ในตอนแรกฮาเซงาวะเซตะก็รู้ดีเกี่ยวกับตัวตนของเย่เชียนและสิ่งที่เขาทำในประเทศญี่ปุ่นซึ่งทำให้เย่เชียนรู้สึกว่าทุกอย่างถูกฮาเซงาวะเซตะจับตามองการเคลื่อนไหวอยู่และเขาอาจจะจงใจเข้าหาซ่งหลันเพื่อดึงเย่เชียนออกมา ถึงแม้ว่าคำพูดของเขาจะสุขุมมากแต่ก็ซ่อนบางอย่างเอาไว้อย่างแนบเนียน ฮาเซงาวะเซตะสามารถเห็นสถานการณ์ต่างๆที่อยู่ตรงหน้าเขาได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนและทำให้เย่เชียนมีความคิดว่าทุกสิ่งทีฮาเซงาวะเซตะทำก่อนหน้านี้เป็นการอ่อนข้อให้นาโอกิอิชิอิเพราะยิ่งยืนสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งปลอดภัยน้อยลงและตกลงมาเจ็บมากเท่านั้น ซึ่งเมื่อผิดพลาดอะไรจะไม่สามารถแก้ไขได้เลย
เย่เชียนและอู๋หวนเฟิงมองหน้ากันและทั้งคู่ก็สามารถเห็นความประหลาดใจในสายตาของกันและกันอย่างชัดเจนและสงสัยว่าฮาเซงาวะเซตะจะแนะนำใคร? เมื่อเห็นรอยยิ้มที่มั่นใจของฮาเซงาวะเซตะแล้วเย่เชียนก็รู้สึกได้ว่าคนที่ฮาเซงาวะเซตะกำลังจะแนะนำคือคนที่เขารู้จักแต่คนๆนั้นจะเป็นใครกันแน่? เรื่องนี้ทำให้เย่เชียนรู้สึกงุนงงอย่างมาก
ไม่นานนักเย่เชียนก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งผลักประตูและเดินเข้ามา ซึ่งเธอสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้นมากและท่อนล่างก็เป็นกระโปรงสั้นจนเกือบจะเห็นบั้นท้าย ซึ่งส่วนบนเป็นเสื้อเหมือนชุดทูพีชที่เผยให้เห็นแผ่นหลังทั้งหมด แต่เย่เชียนก็ไม่แปลกใจเพราะเมื่อเขาอยู่ในทวีปตะวันออกกลางเย่เชียนก็เคยเห็นผู้หญิงหลายคนแต่งตัวแบบนี้ แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจกว่านั้นคือผู้หญิงคนนี้คือนากาซาวะเคโกะที่เป็นเลขาของฟูมะคาเอดะหลานชายของฟูมะไคโตะผู้นำตระกูลอิงะ
เย่เชียนรู้สึกประหลาดใจอย่างมากเพราะเขาไม่คิดว่าฮาเซงาวะเซตะจะรู้จักนากาซาวะเคโกะด้วย เย่เชียนนั้นจำได้ว่านากาซาวะเคโกะคือคนขององค์กรชาโด้ซากุระ หรือเป็นไปได้ไหมว่าฮาเซงาวะเซตะจะเกี่ยวข้องกับองค์กรชาโด้ซากุระด้วย?
เมื่อเข้ามาแล้วนากาซาวะเคโกะก็พยักหน้าให้ฮาเซงาวะเซตะและยิ้มให้เย่เชียนแล้วพูดว่า “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะคุณเย่..คุณดูตกใจกับการแต่งตัวของฉันนะคะ”
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างเขินอายและพูดว่า “คุณนากาซาวะสวยและดูดีมากจนทำให้ผมเผลอมอง..หวังว่าคุณจะไม่ขุ่นเคืองผมนะครับ”
นากาซาวะเคโกะก็ยิ้มอย่างมีเสน่ห์และพูดว่า “คุณเย่ปากหวานจริงๆ..ไม่น่าแปลกใจเลยที่สาวๆจำนวนมากคลั่งไคล้คุณ”
ฮาเซงาวะเซตะก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “เอาล่ะๆ..เธอคือนากาซาวะเคโกะผู้นำขององค์กรชาโด้ซากุระและเป็นหน่วยข่าวกรองลับที่สุดในพรรคฝ่ายค้านของเราด้วย”
เย่เชียนอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปชั่วขณะและเห็นได้ชัดว่ารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก สิ่งนี่เกินความคาดหมายของเขาไปมากเพราะปรากฏว่าองค์กรชาโด้ซากุระกลายเป็นหน่วยข่าวกรองภายใต้พรรคฝ่ายค้านของฮาเซงาวะเซตะ ซึ่งทำให้เย่เชียนแน่นิ่งและไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเลย หากเป็นกรณีนี้การล่มสลายของแก๊งฝูงชิงจะเกี่ยวข้องกับพรรคฝ่ายค้านด้วยหรือไม่?
เมื่อเห็นการแสดงออกของเย่เชียนแล้วฮาเซงาวะเซตะดูเหมือนจะรู้ว่าเย่เชียนนั้นคิดอะไรอยู่ดังนั้นเขาจึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ดูเหมือนว่าคุณเย่จะสงสัยสินะว่าเรื่องนี้มันเป็นมายังไง..อันที่จริงแล้วไม่ว่าจะเป็นองค์กรชาโด้ซากุระหรือสำนักนินจาอิงะก็ตามพวกนั้นเป็นหน่วยข่าวกรองพรรคฝ่ายค้านทั้งหมด..จุดประสงค์ก็คือการรวบรวมข้อมูลต่างๆทั่วทั้งประเทศ..คุณเย่จะต้องคิดว่าการล่มสลายของแก๊งฝูงชิงนั้นเกิดจากองค์กรชาโด้ซากุระใช่มั้ย?..เอาล่ะฉันจะบอกคุณเย่อย่างจริงใจว่าการกวาดล้างครั้งนั้นองค์กรชาโด้ซากุระไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้
แก๊งฝูชิงนั้นถูกทำลายไปแล้วและไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับองค์กรชาโด้ซากุระหรือไม่มันก็ไม่สำคัญอีกต่อไปและเย่เชียนก็ไม่ต้องการที่จะเจาะลึกเรื่องนี้เพราะท้ายที่สุดปัญหาที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับฮาเซงาวะเซตะและห้ามไม่ให้มีความขัดแย้งและความไม่พอใจต่อกันเด็ดขาด
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “แน่นอนผมเชื่อคุณฮาเซงาวะ..ผมแค่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าคุณนากาซาวะเคโกะจะเป็นถึงผู้นำองค์กรชาโด้ซากุระและยังเป็นพรรคพวกของคุณฮาเซงาวะด้วย..ผมก็สงสัยอยู่ว่าคุณฮาเซงาวะรู้ตัวตนของผมและสิ่งที่ผมทำได้ยังไง..ปรากฏว่ามีองค์กรที่ทรงพลังมากคอยสนับสนุนคุณอยู่นี่เอง”
หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดต่อ “ผมคิดมาเสมอว่าองค์กรชาโด้ซากุระนั้นอย่ายเดียวกันกันนาโอกิอิชิอิ..แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าผมจะคิดผิด..ผมกังวลมาโดยตลอดว่าถ้าหากองค์กรชาโด้ซากุระอยู่ฝ่ายเดียวกับนาโอกิล่ะก็ผมจะต้องทำอย่างไรเมื่อเผชิญหน้ากับสาวๆที่แสนสวยเช่นนี้”
“คุณเย่เป็นสุภาพบุรุษที่ปากหวานจริงๆ” นากาซาวะเคโกะพูดด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์และขยับร่างกายเข้าใกล้เย่เชียนโดยตั้งใจ ดูเหมือนว่าเย่เชียนจะสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลที่บริเวณแขนของเขาและเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นไหวในใจ ซึ่งเย่เชียนนั้นยังยอมรับเลยว่านากาซาวะเคโกะนั้นเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์มากและไม่ใช่เพราะว่าเธอสวยอย่างเดียวเท่านั้นแต่เพราะเธอมีบางอย่างที่ทำให้ผู้ชายอดไม่ได้ที่จะเข้าใกล้เธอ แน่นอนว่าสมาชิกทุกคนขององค์กรชาโด้ซากุระได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวดและพวกเธอก็เก่งในการกระตุ้นความปรารถนาของผู้ชายซึ่งจะทำให้จิตวิญญาณที่อยู่ในก้นบึ้งของหัวใจของผู้ชายระเบิดออกอย่างไม่มีขอบเขต
“นี่คือการเตรียมการทั้งหมดของฉันและหมากที่ฉันวางเอาไว้มานานหลายปี..ที่ประเทศจีนนั้นว่ากันว่าจะเป็นการดีที่เรารู้จักตัวเองและรู้จักศัตรูในการต่อสู้..เพราะนั่นจะทำให้เราได้เปรียบอย่างมาก” ฮาเซงาวะเซตะพูด “เพราะงั้นภายใต้สถานการณ์ที่เสียเปรียบแบบนี้ฉันถึงต้องอดทนเอาไว้และรอองค์กรชาโด้ซากุระเก็บข้อมูลต่างๆเอาไว้ให้ฉัน..จากนั้นเมื่อถึงวันที่เหมาะสมฉันจะใช้มันอย่างสมบูรณ์แบบ..เมื่อรู้จุดอ่อนของอีกฝ่ายแล้วฉันก็จะได้ปราบศัตรูในคราวเดียว”
ฮาเซงาวะเซตะนั้นศึกษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจีนมากมาย ดังนั้นโดยพื้นฐานแล้วเขาก็ได้ศึกษาตำราทางทหารและยุทธศาสตร์หลายพันปี ตัวอย่างเช่นตำราสามก๊กและตำราศาสตร์การรบต่างๆ ที่ต้องเข้าใจในสงครามเพื่อแย่งชิงอำนาจและการวางแผนอย่างสมเหตุสมผลซึ่งสามารถช่วยเขาได้มากจริงๆ
“ดูเหมือนว่าคุณฮาเซงาวะกำลังจะเริ่มโต้กลับแล้วสินะ” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม เนื่องจากฮาเซงาวะเซตะกล้าที่จะแนะนำนากาซาวะเคโกะให้กับเขาเพราะงั้นดูเหมือนว่าฮาเซงาวะเซตะต้องการแสดงความจริงใจในการร่วมมือกับเขาอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นฮาเซงาวะเซตะจะแนะนำและบอกถึงตัวตนที่แท้จริงของนากาซาวะเคโกะให้เขารู้ได้อย่างไร
“คุณเย่เองก็มองฉันออกเหมือนกันนั่นแหละฮ่าๆ” ฮาเซงาวะเซตะนั้นดูเหมือนชายชราผู้หยั่งรู้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าฮาเซงาวะเซตะจะศึกษาวัฒนธรรมจีนอย่างลึกซึ้งแค่ไหนและเรียนรู้จากตำราที่สืบทอดมานับพันปีก็ตามถึงยังไงก็ไม่สามารถเข้าใจและนำมาใช้จริงได้เลย ซึ่งสิ่งที่ฮาเซงาวะเซตะทำนั้นค่อนข้างน่าเหลือเชื่อจริงๆ “ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการโต้กลับและเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะโจมตีอีกฝ่ายในเวลาที่อีกฝ่ายไม่มั่นคง..ฉันต้องการให้นาโอกิพ่ายแพ้และไม่มีทางที่จะหันหลังกลับมาได้อีก” ฮาเซงาวะเซตะพูดอย่างมั่นใจ
“คุณฮาเซงาวะครับผมคิดว่าเรายังต้องรออีกสักหน่อยเพราะตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่สุดจริงๆ” เย่เชียนพูด
ฮาเซงาวะเซตะก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและถามด้วยความประหลาดใจว่า “คุณเย่หมายความว่าไง?”
เย่เชียนก็แสยะยิ้มแล้วกันไปมองนากาซาวะเคโกะแล้วพูดว่า “คุณนากาซาวะคุณช่วยตอบคำถามแทนผมหน่อยได้หรือเปล่า?”
“ได้ค่ะตราบใดที่ฉันรู้..ถ้าเป็นข้อมูลในประเทศญี่ปุ่นล่ะก็ฉันรู้ทุกอย่าง” นากาซาวะเคโกะพูดอย่างมั่นใจ
“คุณเองก็น่าจะรู้ว่าใครที่อยู่เบื้องหลังในการรวบรวมองค์กรใหญ่ๆในประเทศญี่ปุ่น..ทั้งตระกูลนินจาต่างๆ..พวกแก๊งยากูซ่าและแม้แต่สมาคมมังกรดำยังต้องเชื่อฟังเขา..ใครกันที่มีความสามารถมากขนาดนี้?” เย่เชียนพูด
“ฉันคิดเอาไว้แล้วว่าคุณเย่จะต้องพูดแบบนี้” นากาซาวะเคโกะพูดแล้วหันไปมองฮาเซงาวะเซตะราวกับว่าเธอจะขอความเห็นชอบจากเขา หลังจากที่ฮาเซงาวะเซตะพยักหน้าแล้วนากาซาวะเคโกะนากาซาวะก็พูดต่อว่า “เขาชื่อม่อหนานและเขาเป็นชาวจีน..จากการสืบค้นของเรานั้นเขามาที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อยี่สิบปีที่แล้วและกำราบองค์กรใหญ่ๆของประเทศญี่ปุ่นอย่างรวดเร็ว..ซึ่งองค์กรใหญ่ๆหลายองค์กรก็ไม่ทราบว่าองค์กรอื่นๆก็ปฏิบัติตามข้อตกลงและอยู่ภายใต้เขาเหมือนๆกัน..ซึ่งเมื่อไม่กี่วันก่อนม่อหนานได้เรียกผู้นำองค์กรหลักๆมากวาดล้างองค์กรที่เป็นพันธมิตรกับประเทศจีนทั้งหมดและส่งเหล่านินจายอดฝีมือไปที่ประเทศจีนเพื่อเริ่มปฏิบัติการทำลายล้างโลกศิลปะการต่อสู้จีนโบราณ..จนถึงตอนนั้นองค์กรใหญ่ๆทั้งหมดก็เพิ่งจะรู้ว่าองค์กรใหญ่ๆอื่นๆก็ฟังคำสั่งของม่อหนานด้วย..จากนั้นเราก็ได้ตรวจสอบข้อมูลของม่อหนานแบบเจาะลึกแต่ก็ไม่มีข้อมูลอะไรใดๆเลย..เรารู้แค่ว่าเขามาจากประเทศจีนเท่านั้น”
เย่เชียนก็ขมวดคิ้วเพราะดูเหมือนว่าฮัตโตริชิฮิโระจะพูดความจริงก่อนที่เขาจะสิ้นลมหายใจ ปรากฏว่าผู้เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้ก็คือม่อหนานผู้เป็นอาแท้ๆของม่อหลงจริงๆ ซึ่งไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่าทำไมม่อหนานถึงทำอย่างนั้น? ทำไมเขาถึงคิดที่จะจัดการกับโลกศิลปะการต่อสู้จีนโบราณทั้งหมด? นี่คือการทรยศหักหลังประเทศชาติไม่ใช่เหรอ? อย่างไรก็ตามเนื่องจากมีการยืนยันแล้วว่าม่อหนานเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดจริงๆ ตราบใดที่สามารถหาตัวของม่อหนานเจอและให้ม่อหลงไปพบกับเขาล่ะก็บางทีสิ่งต่างๆอาจจะง่ายกว่าที่คิดก็เป็นได้ แน่นอนว่าเย่เชียนเองก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากเพราะท้ายที่สุดม่อหนานก็ได้ทำการใหญ่เช่นนี้และไม่มีใครสามารถคาดเดาสิ่งที่เขาคิดได้เลย
“คุณนากาซาวะครับ..ว่าแต่มีวิธีไหนบ้างที่จะสามารถติดต่อกับม่อหนานได้..ผมต้องการพบเขา” เย่เชียนพูด
“คุณเย่มันอันตรายมากถ้าคุณทำแบบนั้น..ครั้งล่าสุดเขากวาดล้างเขี้ยวหมาป่าของคุณเพราะงั้นถ้าเขารู้ว่าคุณมาที่ประเทศญี่ปุ่นล่ะก็เขาจะจัดการกับคุณด้วยพลังทั้งหมดที่มีอย่างแน่นอน..คุณช่วยลองคิดใหม่ดูก่อนเถอะ” ฮาเซงาวะเซตะพูด
“ในจีนมีสำนวนอยู่ว่าถ้าเราไม่เข้าไปในถ้ำเสือเราก็จะหาเสือเจอ..ถ้าผมมองไม่เห็นศัตรูล่ะก็ต่อให้ผมจะชนะถึงยังไงผมก็ยอมรับไม่ได้อยู่ดี!” เย่เชียนพูด “นอกจากนี้ผมเองก็รู้เรื่องของเขาในอดีตด้วย..ให้เราได้พบกันเถอะ..บางทีเราอาจจะแก้ปัญหานี้ได้โดยไม่ต้องนองเลือดก็ได้”
.